fbpx

19 กันยายน 2020
1 ตุลาคม 2020

ปริมาณเหล็กจีนอ่อนตัวลงหลังจากแตะจุดสูงสุดในส.ค.จากสินเชื่อตึงตัว

Update : 29 กันยายน 2563

 

 

การผลิตเหล็กดิบ (crude steel) ของจีนเริ่มจะชะลอตัวลงในเดือนกันยายน หลังจากแตะระดับสูงสุดในเดือนสิงหาคม เป็นผลมาจากเงื่อนไขเงินกู้ที่เข้มงวดมากขึ้น กระทบต่อ
ความต้องการจากภาคการก่อสร้างอสังหาริมทรัพย์และสาธารณูปโภคพื้นฐาน จากข้อมูลที่ประกาศในวันที่ 16 กันยายน

การผลิตเหล็กแตะระดับสูงสุดที่ 94.85 ล้านตัน ในเดือนสิงหาคม เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.6 จากเดือนก่อน และเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.4 จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา จากข้อมูลของ
สำนักงานสถิติแห่งชาติ ที่ประกาศในวันที่ 15 กันยายน ในช่วงเดือนมกราคมถึงเดือนสิงหาคม ปริมาณการผลิตเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.7 จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยอยู่ที่
688.89 ล้านตัน

ปริมาณการผลิตเหล็กพิก (pig iron) ของจีน เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.5 จากเดือนที่แล้ว และเพิ่มขึ้นร้อยละ 5 จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยอยู่ที่ 78.55 ล้านตัน
ในเดือนสิงหาคม ปริมาณการผลิตในช่วงเดือนมกราคมถึงเดือนสิงหาคม อยู่ที่ 589.4 ล้านตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.4 จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม การผลิตเหล็กดิบในช่วง 10 วันแรกของเดือนกันยายน เฉลี่ยอยู่ที่ 2.96 ล้านตันต่อวัน ลดลงร้อยละ 0.6 จากช่วงวันที 20-31 สิงหาคม แต่เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.4
จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากข้อมูลของสมาคมเหล็กและเหล็กกล้าจีน

การผลิตเหล็กดิบของสมาชิกสมาคมฯ รวม 2.14 ล้านตัน/วัน ในระหว่างวันที่1-10 ก.ย.เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.7 จากปีก่อน และเป็นช่วงสิบวันช่วงที่14 ที่มีการเพิ่มจากปีที่ผ่านมา

การชะลอตัวในช่วงต้นเดือนกันยายนจากเดือนก่อน สอดคล้องกับการคาดการณ์ของตลาด เนื่องจากผู้อยู่ในตลาดจำนวนมากคาดว่าการผลิตจะแตะจุดสูงสุดของปี
ในเดือนสิงหาคม และจะลดลงในช่วงที่เหลือของปีนี้

ทั้งนี้ เนื่องจากการปรับตัวดีขึ้นในภาคอสังหาริมทรัพย์และสาธารณูปโภคพื้นฐาน ซึ่งบริโภคเหล็กมากกว่าร้อยละ 55 ของการบริโภคเหล็กทั้งหมดในจีนนั้น ได้ชะลอตัวลง
เนื่องจากนโยบายการเงินที่ตึงตัวขึ้น และมาตรการการกระตุ้นทางการคลังที่ระมัดระวัง