
● พื้นคอนกรีตในโรงงานอุตสาหกรรม
● พื้นโกดังเก็บสินค้า
● ถนนคอนกรีตที่รองรับรถบรรทุกหรือรถหนัก
● ฐานรากอาคารสูง
● งานถนนและลานจอดรถ
● งานพื้นโพเดียม (Podium Slab)
● ทางเท้าและงานสะพานคอนกรีต
● งานก่อสร้างสะพาน
● งานก่อสร้างบ่อเก็บน้ำหรือสระว่ายน้ำ
● พื้นโรงจอดรถขนาดเล็ก
● พื้นลานอเนกประสงค์
● งานเทพื้นคอนกรีตทั่วไปที่มีความหนา 10–15 เซนติเมตร
● พื้นโกดัง
● พื้นโรงจอดรถขนาดเล็ก
● งานถนนหรือพื้นลานจอดรถขนาดเล็ก
ข้อควรพิจารณา: หากโครงสร้างต้องรองรับน้ำหนักมาก เช่น รถบรรทุก ควรเลือก ตะแกรงไวร์เมชตาห่างเล็กลง หรือเลือกเส้นลวดที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางใหญ่ขึ้น เพื่อเพิ่มกำลังรับแรงของโครงสร้าง
งานหนักควรใช้ตาห่างเล็ก งานทั่วไปใช้ตาห่างมาตรฐานได้
คอนกรีตที่มีความหนา 10–15 ซม. เหมาะกับไวร์เมชตาห่าง 25×25 หรือ 30×30 ซม.
ตาห่างเล็กจะใช้ปริมาณเหล็กมากขึ้น ส่งผลให้ราคาสูงกว่า แต่ได้ความแข็งแรงมากขึ้นเช่นกัน
หากคุณยังไม่แน่ใจว่าควรเลือกขนาดช่องตาห่างไวร์เมช เท่าไรจึงจะเหมาะสมกับโครงการ เรามีทีมวิศวกรผู้เชี่ยวชาญจาก WMI Group ที่พร้อมให้คำปรึกษาอย่างละเอียด ด้วยประสบการณ์มากกว่า 31 ปีในการผลิตตะแกรงเหล็กไวร์เมช มาตรฐาน มอก. และ MiT (Made in Thailand) คุณจึงมั่นใจได้ว่าจะได้รับคำแนะนำที่ถูกต้อง และได้ตะแกรงไวร์เมชมีคุณภาพสูงสุดสำหรับงานก่อสร้าง
คือ "ขนาดช่องตาห่างไวร์เมช" ที่ส่งผลโดยตรงต่อความแข็งแรงของโครงสร้าง
บทความนี้จะพาคุณมาทำความเข้าใจว่าขนาดช่องตาห่างของตะแกรงไวร์เมช
มีผลต่อความสามารถในการกระจายแรง การรองรับน้ำหนัก และความแข็งแรงของโครงสร้างอย่างไร พร้อมทั้งแนะนำวิธีเลือกใช้ให้เหมาะสมกับงานก่อสร้าง เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด