
● มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 18 สิงหาคม 2025
● สินค้าที่ถูกเพิ่ม ได้แก่:
• เครื่องจักร
• เครื่องดับเพลิง
• วัสดุก่อสร้าง
• สารเคมีเฉพาะทาง
• ชิ้นส่วนรถยนต์
• พลาสติก
• ส่วนประกอบเฟอร์นิเจอร์
● มูลค่าการนำเข้าที่ได้รับผลกระทบ 3.2 แสนล้านดอลลาร์
● เป้าหมาย: ปกป้องอุตสาหกรรมในสหรัฐฯ แต่เพิ่ม ต้นทุนสินค้าและเงินเฟ้อ
⚙️ ผลกระทบต่อไทย: ส่งออกไปสหรัฐฯ ลดลง ต้องปรับกลยุทธ์ตลาด
แหล่งที่มา: ฐานเศรษฐกิจ
● ทรัมป์ขู่เก็บ ภาษีนำเข้าจากจีน 200% หากจีนไม่ส่งออก “แม่เหล็กแร่หายาก” ให้สหรัฐฯ
● ปัจจุบันจีนครองตลาด แม่เหล็กหายาก ~90% ของโลก มีบทบาทสำคัญต่ออุตสาหกรรมรถยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ และพลังงานหมุนเวียน
● ทรัมป์ชี้ ชิ้นส่วนเครื่องบิน Boeing จะเป็นไพ่ต่อรอง หากจีนกีดกันการส่งออก
● การขู่ครั้งนี้เกิดขึ้นก่อน ข้อตกลงสงบศึกการค้า (ที่ลดภาษีเหลือ 55% และ 32%) จะหมดอายุใน พ.ย. 2025
● จีนเพิ่งฟื้นการส่งออกแม่เหล็กไปสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 660% (มิ.ย.) และ 76% (ก.ค.)
● หัวหน้าคณะเจรจาการค้าจีน เตรียมเดินทางไปวอชิงตันเพื่อหารือเพิ่มเติม
ภาพรวมข่าว
● สหรัฐฯ กดดันจีนด้านวัตถุดิบสำคัญทางยุทธศาสตร์
● เกมการค้าระหว่างสองประเทศยังคงตึงเครียด และอาจกระทบ supply chain โลก
⚙️ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเหล็กไทย
● แม้ไม่เกี่ยวตรง แต่ แม่เหล็กแร่หายากเป็นวัตถุดิบสำคัญในยานยนต์ EV และอิเล็กทรอนิกส์ → หาก supply chain สะดุด อาจทำให้ความต้องการเหล็กในอุตสาหกรรมปลายน้ำผันผวน
● ไทยต้องจับตา ต้นทุนและทิศทางอุตสาหกรรมยานยนต์/พลังงานหมุนเวียน ที่ใช้เหล็กและแม่เหล็กร่วมกัน
แหล่งที่มา: RYT9
● กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ออกมาตรการ เก็บภาษีทุ่มตลาด (AD) และ ภาษีตอบโต้ (CVD)
● ครอบคลุมมูลค่า 2.9 พันล้านดอลลาร์ จาก 10 ประเทศ:
ออสเตรเลีย, บราซิล, แคนาดา, เม็กซิโก, เนเธอร์แลนด์, แอฟริกาใต้, ไต้หวัน, ตุรกี, UAE, เวียดนาม
● เหล็กที่ถูกตรวจสอบคือ เหล็กทนการกัดกร่อน (Corrosion-Resistant Steel)
● ใช้ใน ยานยนต์, เครื่องใช้ไฟฟ้า, ก่อสร้าง
● เหตุผล: ประเทศเหล่านี้ขายถูก/มีการอุดหนุน → ทำให้ผู้ผลิตเหล็กในสหรัฐฯ เสียเปรียบ
● เป้าหมาย: ปกป้อง อุตสาหกรรมเหล็กและแรงงานอเมริกัน
ภาพรวมข่าว
● สหรัฐฯ เดินเกมเข้มงวดด้านการค้ากับหลายประเทศ
● เน้นคุ้มครองผู้ผลิตภายในประเทศและลดการแข่งขันจากเหล็กนำเข้า
⚙️ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเหล็กไทย
● ไทย ไม่ได้อยู่ใน 10 ประเทศที่ถูกเก็บภาษีรอบนี้ → ถือเป็นช่องว่างในการส่งออก หากคู่แข่งเสียเปรียบด้านราคา
● แต่ต้องระวัง ความเสี่ยงอนาคต หากไทยถูกจับตามองเรื่องราคาหรือการอุดหนุน
● อุตสาหกรรมเหล็กไทยที่เกี่ยวกับ ยานยนต์และเครื่องใช้ไฟฟ้า อาจได้รับอานิสงส์เล็กน้อยจากการถูกแทนที่ตลาด
แหล่งที่มา: RYT9
● วันที่ 28 ส.ค. 2025 ดัชนีนิกเกอิปิดตลาดที่ 42,828.79 จุด
➝ เพิ่มขึ้น +308.52 จุด (+0.73%)
● แรงหนุนหลัก
• หุ้นกลุ่ม เทคโนโลยี AI (เช่น SoftBank) หลังผลประกอบการ Nvidia แข็งแกร่ง
• หุ้นกลุ่ม เหมืองแร่, โลหะที่ไม่ใช่เหล็ก, บริษัทหลักทรัพย์
• หุ้นกลุ่ม พลังงานและ cyclical stocks ขยับขึ้นตามเศรษฐกิจโลกที่ยังแข็งแรง
● ช่วงบ่าย หุ้นบริษัทการค้าขนาดใหญ่พุ่งแรง หลัง Berkshire Hathaway ของ Warren Buffett เพิ่มสัดส่วนถือหุ้น Mitsubishi Corp. เกิน 10%
● นักวิเคราะห์ชี้ว่า แม้ Nvidia ทำกำไรต่ำกว่าที่บางคนคาด แต่ยังสะท้อน อุปสงค์ AI แข็งแกร่ง → ส่งผลดีต่อบริษัทญี่ปุ่นที่เกี่ยวข้อง
ภาพรวมข่าว
● ตลาดหุ้นญี่ปุ่นได้แรงบวกจาก เทรนด์ AI + ความเชื่อมั่นเศรษฐกิจโลก
● การลงทุนจาก Buffett ใน Mitsubishi เพิ่มแรงหนุนเชิงบวกต่อความเชื่อมั่นนักลงทุน
⚙️ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเหล็กไทย
● ความต้องการ เทคโนโลยี AI และอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ที่โตต่อเนื่อง → ส่งสัญญาณการใช้ วัตถุดิบและโลหะ เพิ่มขึ้นในภูมิภาคเอเชีย
● หุ้นกลุ่ม เหมืองแร่และโลหะไม่ใช่เหล็ก พุ่ง สะท้อนความเชื่อมั่นด้านวัตถุดิบ → ไทยอาจได้รับแรงหนุนทางอ้อมจากการค้าขายเหล็กและวัสดุอุตสาหกรรม
● ถ้าเศรษฐกิจญี่ปุ่นขยายตัวดีขึ้น จะ เพิ่มโอกาสการส่งออกสินค้าเหล็กไทยไปยังญี่ปุ่น โดยเฉพาะกลุ่มยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และโครงสร้างพื้นฐาน
แหล่งที่มา: RYT9