Electrical Resistance Welding (ERW) คืออะไร
Electrical Resistance Welding (ERW) หรือ การเชื่อมด้วยความต้านทานไฟฟ้า
คือกระบวนการเชื่อมโลหะที่ใช้ความร้อนจากกระแสไฟฟ้าเพื่อหลอมโลหะให้เชื่อมติดกัน โดยไม่ต้องใช้ลวดเชื่อมหรือวัสดุเติมเชื่อมเพิ่มเติม (filler material) จึงเป็นเทคโนโลยีที่มีความสะดวก ประหยัด และได้รับความนิยมอย่างมากในอุตสาหกรรมการผลิตโลหะ เช่น การทำ ตะแกรงเหล็กไวร์เมช (Wire Mesh), การผลิตท่อ, และโครงสร้างยานยนต์
กระบวนการทำงานของ Electrical Resistance Welding (ERW)
หลักการทำงาน
● กระแสไฟฟ้าไหลผ่านจุดสัมผัส
โลหะสองชิ้น ถูกกดให้สัมผัสกัน จากนั้นกระแสไฟฟ้าจะไหลผ่านจุดสัมผัส
● เกิดความร้อนจากความต้านทานไฟฟ้า
ความต้านทานของโลหะ ทำให้เกิดความร้อนสูงจนโลหะบริเวณนั้นหลอมละลาย
● การกดอัดเพื่อความแข็งแรง
หลังจากหลอมละลายและเย็นตัว โลหะจะเชื่อมติดกันแน่นหนาและทนทาน
ประเภทของการเชื่อม ERW welding
การเชื่อมด้วยกระแสไฟฟ้าสามารถแบ่งออกตามลักษณะของรอยเชื่อมและวิธีการใช้แรงกดที่จุดเชื่อมได้หลายประเภท เช่น
● Spot Welding (เชื่อมจุด)
เป็นการเชื่อมที่นิยมใช้ในการเชื่อมแผ่นโลหะซ้อนกัน โดยใช้ขั้วไฟฟ้าทองแดงสองข้างกดแผ่นโลหะและส่งกระแสไฟฟ้าผ่านจุดสัมผัส
ทำให้เกิดความร้อนหลอมละลายและเชื่อมติดกัน
● Seam Welding (เชื่อมรอยต่อแบบต่อเนื่อง)
ใช้สำหรับเชื่อมรอยต่อยาว โดยขั้วไฟฟ้าเป็นลักษณะดิสก์หมุนขณะเคลื่อนที่ผ่านชิ้นงาน ทำให้เกิดรอยเชื่อมที่ต่อเนื่องและแข็งแรง
● ประเภทอื่น ๆ เช่น Flash Welding, Projection Welding เป็นต้น
หลักการทำงานของ ERW welding
1. กระแสไฟฟ้าไหลผ่านจุดสัมผัส
ลวดเหล็กสองเส้นถูกจัดตำแหน่งและกดให้สัมผัสกัน จากนั้นกระแสไฟฟ้าจะไหลผ่าน ทำให้เกิดความร้อนจากความต้านทานของโลหะ
2. ความร้อนทำให้จุดเชื่อมหลอมละลาย
ความร้อนจะเพิ่มขึ้นจนถึงจุดหลอมเหลว ทำให้โลหะบริเวณจุดสัมผัสสามารถรวมตัวกันได้
3. การกดอัดเพื่อความแน่นหนา
เมื่อความร้อนลดลง โลหะจะเย็นตัวและแข็งแรงขึ้น จุดเชื่อมจึงมีความแน่นหนาและทนทาน
ข้อดีของเทคโนโลยี ERW welding
คุณสมบัติเด่น
1. คุณภาพสม่ำเสมอ
ทุกจุดเชื่อมมีความแข็งแรงใกล้เคียงกัน
2. ผลิตได้รวดเร็ว
เครื่องจักร ERW สามารถเชื่อมได้หลายจุดพร้อมกัน เหมาะกับงานผลิตจำนวนมาก
3. ประหยัดต้นทุน
ไม่ต้องใช้ลวดเชื่อมหรือฟลักซ์ ลดค่าใช้จ่ายและสิ่งปนเปื้อน
4. เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
กระบวนการใช้พลังงานมีประสิทธิภาพ และไม่เกิดควันหรือสารเคมีตกค้างมาก
การประยุกต์ใช้ ERW welding
● อุตสาหกรรมก่อสร้าง
→ ใช้ผลิต ตะแกรงเหล็กไวร์เมช (Wire Mesh) สำหรับงานคอนกรีต ถนน และอาคาร
● อุตสาหกรรมยานยนต์
→ ใช้เชื่อมชิ้นส่วนโครงสร้าง เช่น โครงรถ ประตู และท่อไอเสีย
● การผลิตท่อเหล็กและถัง
→ Seam Welding ถูกใช้ในการเชื่อมรอยต่อท่อยาว
● โครงสร้างโลหะอุตสาหกรรม
→ ใช้ในเครื่องจักรและอุปกรณ์ที่ต้องการความแข็งแรง
จุดเด่นของการใช้ ERW welding ในการผลิตตะแกรงเหล็กไวร์เมช
1. คุณภาพสม่ำเสมอ
ทุกจุดเชื่อมมีความแข็งแรงเท่าๆ กัน ลดปัญหาการหลุดหรือแตกหัก
2. ความรวดเร็วในการผลิต
เครื่องจักร ERW สามารถเชื่อมได้หลายจุดพร้อมกันในเวลาอันสั้น เหมาะกับการผลิตปริมาณมาก
3. ประหยัดต้นทุนวัสดุ
ไม่ต้องใช้ลวดเชื่อมหรือสารเติมแต่ง ลดต้นทุนและลดสิ่งปนเปื้อนในเนื้อเหล็ก
ประโยชน์ของเทคโนโลยี ERW welding ในการผลิตตะแกรงเหล็กไวร์เมช
● ใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ
● ลดการเสียรูปของชิ้นงาน
● รองรับการผลิตจำนวนมากด้วยระบบอัตโนมัติ
● ไม่ต้องใช้วัสดุเติมเชื่อม
● ให้รอยเชื่อมที่แข็งแรงในตำแหน่งที่ต้องการ
ด้วยเทคโนโลยี ERW welding ทำให้ WMI Group สามารถผลิตตะแกรงเหล็กไวร์เมชที่ได้มาตรฐาน มอก.
พร้อมคุณภาพสูงและความแม่นยำในการเชื่อมทุกจุด
ทำไม WMI Group จึงเลือกใช้เทคโนโลยี ERW welding
WMI Group ให้ความสำคัญกับคุณภาพ ความแข็งแรง และความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์
เราจึงเลือกใช้เทคโนโลยี ERW welding
เพื่อให้ลูกค้าได้รับตะแกรงเหล็กไวร์เมชที่ได้มาตรฐาน มอก. 737-2549
และตอบโจทย์การใช้งานด้านโครงสร้างคอนกรีต ถนน และอาคาร
สรุป
เทคโนโลยี Electrical Resistance Welding (ERW) เป็นหนึ่งในกระบวนการเชื่อมที่มีความสำคัญต่ออุตสาหกรรมการผลิตโลหะ เนื่องจากช่วยให้ได้รอยเชื่อมที่แข็งแรง รวดเร็ว ประหยัดต้นทุน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
WMI Group นำเทคโนโลยีนี้มาใช้ในการผลิตตะแกรงเหล็กไวร์เมช เพื่อมอบสินค้าที่ได้มาตรฐานสูงสุดแก่ลูกค้า
สั่งไวร์เมชกับ WMI Group ง่ายๆ แค่ คลิก
ติดต่อเราเพื่อขอใบเสนอราคา, ปรึกษาเรื่องการใช้ไวร์เมช, หรือเช็คราคาใกล้คุณ ได้ทันที



