Admin2

23 ธันวาคม 2023

เหล็กลวดไวร์รอท คืออะไร?

ไวร์รอท – Wire Rod ไวร์รอท คืออะไร?    ไวร์รอท (wire rod) คือ ผลิตภัณฑ์เหล็กม้วนที่ผลิตจากการ รีดร้อน (hot rolling) โดยมีลักษณะหน้าตัดเป็นทรงกลม เส้นผ่านศูนย์กลางมักอยู่ระหว่าง 5–20 mm จากนั้นม้วนเป็นขดเพื่อเตรียมนำไปสู่กระบวนการต่อไป โดยทั่วไปจะใช้คาร์บอนต่ำ และผ่านมาตรฐานอุตสาหกรรม มอก. 348-2540
ขนาดของขดเหล็กไวร์รอทจะมีทั้งขนาดขนาดภายในราว 810–910 mm และภายนอก 1,100–1,300 mm โดยน้ำหนักแต่ละขดแตกต่างกันไป ตั้งแต่ประมาณ 600 กก. จนถึง 2.5 ตัน ลวดเหล็กไวร์รอท มีลักษณะดังนี้ • เป็นเหล็กคาร์บอนต่ำ คาร์บอน  ≤ 0.08%
• เหล็กม้วนยาวเป็นขด หนักประมาณ 1.5-2 ตัน
• มีขนาดลวดตั้งแต่ 5.5 มิลลิเมตร ถึง 19 มิลลิเมตร เหล็กลวด หรือเหล็กไวร์รอท Wire rod เป็นผลิตภัณฑ์    เหล็กกล้าชนิดคาร์บอนต่ำร้อนกึ่งสำเร็จรูป ลักษณะเหล็กเส้นแบบกลม เป็นเส้นยาวที่ม้วนเป็นขด โดยทั่วไปจะนิยมนำไปผลิตด้วยการดึงเย็น เพื่อนำไปผลิตในงานอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง เช่นการนำไปผลิตตะแกรงเหล็กไวร์เมช ของ WMI Group เป็นต้น
ดังนั้น ไวร์เมช WMI จึงต้องเลือกใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพดี ประสิทธิภาพสูง จึงทำให้ลูกค้ามั่นใจว่าตะแกรงเหล็กของเรา ได้มาตรฐานทุกตารางเมตร เพราะคัดสรรวัตถุดิบคุณภาพเพื่อการใช้งานทุกหน้างานของลูกค้าทุกคน กระบวนการผลิตและประเภทของไวร์รอท • เริ่มจาก billet หรือ billet steel ผ่านการรีดร้อนในโรงม้วน (rod mill) จนได้ขนาดตามต้องการ แล้วม้วนเก็บในรูปขดเหล็ก
• คุณสมบัติและเกรด โดยแบ่งตามคาร์บอน เช่น low-carbon, medium-carbon, high-carbon เพื่อให้เหมาะกับการใช้งาน เช่น ลวดสปริง, ลวดผูก (tie wire), หรือเสาเหล็กค้ำยึดคอนกรีต เหล็กลวดไวร์รอทสู่ตะแกรงเหล็กไวร์เมช WMI

   เมื่อได้ wire rod แล้ว ขั้นตอนต่อไปคือสู่กระบวนการผลิต “ตะแกรงเหล็กไวร์เมช” ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปที่ได้รับการเชื่อมลวดตามแนวตาราง เหมาะสำหรับเสริมโครงสร้างคอนกรีต เช่น พื้นหรือผนัง ระบบการผลิตสินค้าของ WMI เริ่มตั้งแต่เลือกไวร์รอทที่เหมาะสม ไปจนถึงการรีด/ดึงลวดแล้วจัดวางเพื่อเชื่อมต่อแบบแม่นยำ โดยใช้เทคโนโลยีระดับสูงของ WMI ให้ตะแกรงมีความแข็งแรง ทนทาน และสอดคล้องกับมาตรฐาน มอก. บทสรุป • ไวร์รอท (wire rod) คือเชื้อเพลิงแรกเริ่มของการผลิตลวดและตะแกรง
• เป็นหัวใจสำคัญที่ส่งผลต่อคุณภาพของ ตะแกรงเหล็กไวร์เมช WMI
• WMI เลือกใช้ ไวร์รอทคุณภาพสูง ผ่านกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐาน มอก. เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจในผลิตภัณฑ์ ทั้งความแข็งแรงและความคุ้มค่า สั่งไวร์เมชกับ WMI Group ง่ายๆ แค่ คลิก ติดต่อเราเพื่อขอใบเสนอราคา, ปรึกษาเรื่องการใช้ไวร์เมช, หรือเช็คราคาใกล้คุณ ได้ทันที


16 เมษายน 2020
การเทพื้นปูน พื้นคอนกรีตเป็นถนนทางเข้าหน้าบ้าน

การเทพื้นคอนกรีต

การเทพื้นคอนกรีต การเทพื้นคอนกรีต ให้แข็งแรงและทนทาน        การเทพื้นคอนกรีต เป็นขั้นตอนสำคัญที่ต้องใช้ทั้งเทคนิคและวัสดุที่ได้มาตรฐานเพื่อให้พื้นมีความแข็งแรง ใช้งานได้ยาวนาน และลดโอกาสแตกร้าว โดยเฉพาะพื้นที่ที่รับน้ำหนักมาก เช่น ถนน ลานจอดรถ หรือพื้นบ้าน การเลือกใช้ ตะแกรงเหล็กไวร์เมช WMI Group ซึ่งผ่านมาตรฐาน มอก. 737-2549 จะช่วยเสริมความแข็งแรงให้คอนกรีตและป้องกันการแตกร้าวได้อย่างมีประสิทธิภาพ การเทคอนกรีต สำหรับถนนทางเข้าหน้าบ้าน        การเทพื้นคอนกรีต เป็นขั้นตอนสำคัญในการทำถนน ลานจอดรถ หรือพื้นบ้านที่ต้องการความแข็งแรงและทนทาน โดยทั่วไปความหนาของพื้นคอนกรีตสำหรับรถยนต์วิ่งผ่านควรอยู่ที่ประมาณ 15 ซม. มีกำลังอัด 180-240 KSC ซึ่งสามารถผสมเองในอัตราส่วน ปูนซีเมนต์ : ทราย : หิน = 1 : 2 : 4 หรือใช้คอนกรีตผสมเสร็จจากโรงงานเพื่อความสะดวกและควบคุมคุณภาพได้ดีกว่า การเตรียมพื้น เพื่อการเทคอนกรีต 1. เริ่มต้นด้วยการปรับระดับดินเดิมให้เรียบและแน่น (ไม่เป็นหลุมเป็นบ่อ) และลดระดับหน้าดินเผื่อความหนาของทรายและคอนกรีต 2. ทำการตั้งแบบเทคอนกรีต โดยใช้แบบไม้เนื้อแข็งหรือแบบเหล็กสำเร็จรูปวางตามแนวของเส้นถนน ในขอบเขตความกว้างยาวตามแบบที่กำหนดไว้ แล้วค้ำยันให้แข็งแรง
แนะนำว่าความกว้างของถนนไม่ควรเกิน 4 เมตร ส่วนความยาวของถนนในแต่ละช่วงไม่ควรเกิน 6 เมตร เพราะการยืดหดขยายตัวของถนนอาจทำให้เกิดรอยร้าวได้ 3. เททรายจนได้ระดับความหนา 5 เซนติเมตร แล้วบดอัดด้วยเครื่องตบดินหรือทุบให้แน่น ขั้นตอน การเทพื้นคอนกรีต 1. เมื่อปรับผิวหน้าดินเรียบร้อยแล้ว ให้วางตะแกรงเหล็กไวร์เมช เส้นผ่านศูนย์กลาง 6 มม. ขนาดตาราง 15×15 ซม. (6 mm @15 cm) ไว้ในเนื้อคอนกรีตด้วย โดยตะแกรงเหล็กไวร์เมชนี้จะต้องอยู่ต่ำกว่าผิวคอนกรีตประมาณ 5 เซนติเมตร เพื่อป้องกันรอยร้าวที่ผิวคอนกรีต รวมถึงการวางตำแหน่ง เหล็กเดือย (Dowel Bar) หรือ เหล็กยึด (Tie Bar) ตามแบบมาตรฐาน เพื่อเสริมความแข็งแรงในบริเวณรอยต่อตามแนวกว้างและแนวยาวของพื้นคอนกรีต 2. โดยทั่วไปจะใช้วิธีการเทพื้นคอนกรีตลงไปให้ต่ำกว่าระดับที่ต้องการแล้วเกลี่ยให้ทั่ว จากนั้นวางตะแกรงเหล็กไวร์เมช แล้วเทคอนกรีตทับอีกรอบให้ได้ระดับตามที่กำหนด
หรืออาจใช้อีกวิธีหนึ่ง คือการเสริมลูกปูนก่อนจะวางตะแกรงเหล็กไวร์เมชทับลงไป แล้วเทคอนกรีตให้ทั่วพื้นที่จนได้ระดับตามต้องการ
วิธีนี้สะดวกตรงที่ การเทคอนกรีตสามารถทำได้ในขั้นตอนเดียว 3. หลังจากเทคอนกรีตลงไปแล้ว ให้ทำการปรับแต่งผิวหน้าให้เรียบร้อย จากนั้นปล่อยทิ้งไว้จนผิวคอนกรีตเริ่มแข็งตัวและให้บ่มพื้นคอนกรีตโดยฉีดน้ำให้ชุ่มไม่น้อยกว่า 7 วัน เพื่อให้คอนกรีตมีความแข็งแรงเต็มที่
ขั้นตอนนี้นับว่าจำเป็นมาก เพราะหากไม่บ่มคอนกรีตหรือบ่มในระยะเวลาที่เหมาะสม จะทำให้คอนกรีตมีประสิทธิภาพในการรับแรงต่ำกว่าที่ควร
ทั้งยังอาจทำให้สารต่าง ๆซึมเข้าสู่เนื้อคอนกรีต ส่งผลให้เหล็กเสริมเป็นสนิมง่าย จนทำให้คอนกรีตเกิดการแตกร้าวเสียหายได้ 4. หลังจากที่พื้นคอนกรีตแข็งแรงขึ้นแล้ว จะต้องกรีดร่องด้วย Saw Cut Machine ตามตำแหน่งรอยต่อคอนกรีต โดยให้มีความกว้างไม่น้อยกว่า 1 เซนติเมตร ลึก 1.5 เซนติเมตร แล้วหยอดยางมะตอยระหว่างช่อง ป้องกันไม่ให้น้ำซึมลงไปในร่องรอยต่อ
เป็นการป้องกันดินทรุดนั่นเอง ทำไม “ไวร์เมช WMI Group” เหมาะกับการเทพื้นคอนกรีต ✔ ออกแบบมาเพื่อ “การเทพื้นคอนกรีต” โดยตรง ตะแกรงเหล็กไวร์เมช (Wire Mesh) ช่วยกระจายแรงและควบคุมรอยแตกร้าวจากการหดตัวของคอนกรีต
ลดโอกาสรอยร้าวแบบสุ่ม ทำให้พื้นแข็งแรงและใช้งานได้นาน ✔ มาตรฐาน มอก. เชื่อถือได้ ผลิตตามมาตรฐานอุตสาหกรรมไทย มอก. 737-2549
ให้ค่าความสม่ำเสมอของเส้นลวด ขนาดช่อง และคุณภาพรอยเชื่อมที่แน่นหนา
มั่นใจได้เรื่องความแข็งแรงและความปลอดภัย ✔ คุณภาพสม่ำเสมอทุกม้วน ทุกแผง ผลิตด้วยเครื่องจักรอัตโนมัติ ควบคุมระยะห่างของตะแกรงและเส้นผ่านศูนย์กลางลวดได้แม่นยำ ✔ ลดความผิดพลาดหน้างาน ไม่ต้องคำนวณระยะผูกลวดทีละเส้น ลดการผูกหลวม/แน่นเกินไป
ลดเศษเหล็กและการสูญเสียวัสดุ ช่วยคุมงบประมาณได้จริง ✔ รองรับงานสั่งผลิต/ปรับสเปกตามแบบ (ตามเงื่อนไข) สรุป ไวร์เมชจาก WMI Group ผลิตตามมาตรฐาน มอก. มีหลายขนาด (2.8-12 มม.)
เหมาะสำหรับงานเทพื้นคอนกรีตทุกประเภท ทั้งบ้านพักอาศัยและงานโครงสร้างขนาดใหญ่
ช่วยเพิ่มความแข็งแรง ลดรอยแตกร้าว และติดตั้งได้รวดเร็ว สั่งไวร์เมชกับ WMI Group ง่ายๆ แค่ คลิก ติดต่อเราเพื่อขอใบเสนอราคา, ปรึกษาเรื่องการใช้ไวร์เมช, หรือเช็คราคาตรงจากโรงงาน


 
16 เมษายน 2020
ตะแกรงไวรเมชลวดกลม

ตะแกรงไวร์เมช ลวดกลม ข้ออ้อย

ตะแกรงไวร์เมช คืออะไร?    ตะแกรงไวร์เมช (Wire Mesh) เป็นผลิตภัณฑ์เหล็กเสริมคอนกรีตที่ผลิตจากลวดเหล็กรีดเย็น (Cold Drawn Steel Wire) นำมาทอติดกันเป็นแผง แล้วอาร์คเชื่อมด้วยไฟฟ้า ทำให้จุดเชื่อมทุกจุดหลอมละลายเป็นเนื้อเดียวกัน ส่งผลให้มี กำลังคลาก (Tensile Strength) สูงกว่าเหล็กเส้นธรรมดาเกือบ 2 เท่า
ด้วยคุณสมบัติพิเศษนี้ ตะแกรงไวร์เมชจึงเป็นที่นิยมอย่างมากในงานก่อสร้างสมัยใหม่ ทั้งงานถนนคอนกรีต ผนังคอนกรีตสำเร็จรูป เขื่อน บ่อเก็บน้ำ และโครงสร้างที่ต้องการความแข็งแรงทนทาน ตะแกรงไวร์เมชแบบลวดกลม
   ตะแกรงไวร์เมชแบบลวดกลม ผลิตจากเหล็กเส้นกลมรีดเย็น (RB) ผิวเรียบเกลี้ยง หน้าตัดกลม เหมาะสำหรับงานก่อสร้างทั่วไปที่ไม่ต้องการแรงยึดเกาะสูงมาก เช่น ● ปลอกเสา ปลอกคาน
● โครงถนน
● งานก่อสร้างบ้าน อาคารขนาดเล็ก–กลาง
เนื่องจากผิวเรียบ การใช้งานจึงมักต้องอาศัยการดัดงอ เพื่อให้สามารถถ่ายแรงระหว่างคอนกรีตกับเหล็กได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตะแกรงไวร์เมชแบข้ออ้อย
   ตะแกรงไวร์เมชแบบข้ออ้อย ผลิตจากเหล็กเส้นข้ออ้อย (DB) ซึ่งมีผิวเป็นปล้อง ๆ คล้ายข้ออ้อยตลอดทั้งเส้น
ทำให้เกิดแรงยึดเหนี่ยวกับคอนกรีตได้มากกว่าเหล็กเส้นกลมในขนาดเท่ากัน    ด้วยคุณสมบัติด้านความแข็งแรงและการยึดเกาะสูง จึงนิยมใช้ในงานก่อสร้างที่ต้องรับน้ำหนักมากและต้องการโครงสร้างแข็งแรงเป็นพิเศษ เช่น ● อาคารสูง ตึกสำนักงาน
● สะพาน ถนนคอนกรีตที่รับรถบรรทุกหนัก
● เขื่อน สนามบิน
● สระน้ำ วิธีเลือกใช้ตะแกรงไวร์เมชให้เหมาะกับงาน    การเลือกใช้ ตะแกรงไวร์เมช ควรพิจารณาจากประเภทงานก่อสร้าง ความหนาคอนกรีต และความแข็งแรงที่ต้องการ
โดยทั่วไป เหล็กเส้นกลมจะเหมาะกับงานทั่วไป ส่วนเหล็กข้ออ้อยจะเหมาะกับงานที่ต้องการโครงสร้างทนทานสูง
หากต้องการความมั่นใจ ควรเลือก ตะแกรงไวร์เมชที่ได้มาตรฐาน มอก. และผลิตโดยโรงงานที่เชื่อถือได้
เลือก WMI Group ประสบการณ์มากกว่า 31 ปี ในอุตสาหกรรมตะแกรงดหล็กไวร์เมช ได้รับการรับรองมาตรฐาน มอก. และ MIT (Made in Thailand) ลักษณะเหล็กเส้นที่ดี ควรเป็นอย่างไร? ● เหล็กเส้นกลมต้องมีผิวเรียบเกลี้ยง ไม่มีปีก ไม่มีรอยปริแตก
● เหล็กข้ออ้อยต้องมีบั้งระยะเท่ากัน สม่ำเสมอตลอดทั้งเส้น
● เส้นผ่านศูนย์กลางและน้ำหนักถูกต้องตามมาตรฐาน
● เมื่อนำไปดัดโค้งงอ ต้องไม่ปริแตกหรือหักง่าย สรุป    ตะแกรงไวร์เมชลวดกลมและข้ออ้อย เป็นวัสดุเสริมคอนกรีตที่มีบทบาทสำคัญในงานก่อสร้างสมัยใหม่ โดยเหล็กเส้นกลมจะเหมาะกับงานทั่วไป ส่วนเหล็กข้ออ้อยเหมาะกับงานที่ต้องการความแข็งแรงสูง การเลือกใช้งานที่ถูกต้องจะช่วยให้โครงสร้างมีความทนทาน ใช้งานได้ยาวนาน และประหยัดต้นทุนในระยะยาว
หากคุณกำลังมองหา ตะแกรงไวร์เมชคุณภาพสูง ราคาถูก ได้มาตรฐาน มอก. เลือกไวร์เมช จาก WMI Group พร้อมจัดส่งทั่วประเทศ และมีทีมวิศวกรผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษา สั่งไวร์เมชกับ WMI Group ง่ายๆ แค่ คลิก ติดต่อเราเพื่อขอใบเสนอราคา และ ปรึกษาเรื่องการใช้ไวร์เมช


-----