


● ราคาฟิวเจอร์สเหล็กเส้น (Rebar) ที่ตลาด Shanghai Futures Exchange ปรับตัวขึ้นทันทีหลังประกาศนโยบายใหม่ของรัฐบาลจีน
● กระทรวงอุตสาหกรรมจีน (MIIT) เข้มงวดการ “แลกเปลี่ยนกำลังผลิต” (capacity swaps) เพื่อจำกัดปริมาณผลิตเหล็กเกิน
● เป้าหมายเพื่อลดการปล่อยคาร์บอนและควบคุมมลพิษจากอุตสาหกรรมเหล็กหนัก
● มาตรการนี้อาจทำให้โรงงานที่ไม่มีใบอนุญาตผลิตใหม่ถูกจำกัดการดำเนินงาน
● นักลงทุนคาดว่าปริมาณอุปทานจะลดลงในไตรมาส 4/2025
● ความต้องการภายในประเทศเริ่มฟื้นตัว โดยเฉพาะภาคโครงสร้างพื้นฐาน
● ราคาฟิวเจอร์สขยับขึ้นกว่า 2% ในวันเดียว
● ตลาดคาดว่าราคาเหล็กในจีนจะมีเสถียรภาพมากขึ้นในเดือนพฤศจิกายน
⚙️ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเหล็กไทย:
● ราคานำเข้าเหล็กจากจีนอาจปรับสูงขึ้นในระยะสั้น
● ผู้ผลิตไทยควรใช้ช่วงนี้รักษาระดับราคาและขยายตลาดในประเทศ
● อาจช่วยลดแรงกดดันจากเหล็กราคาถูกที่ทุ่มตลาดในภูมิภาค
อ่านข่าวเพิ่มเติม: Bloomberg
● ราคาหินแร่เหล็ก (Iron Ore) รายวันแบบ CFR จีนทรงตัวใกล้ระดับ 105–106 ดอลลาร์/ตัน
● ปริมาณซื้อขายยังเบาบาง เนื่องจากผู้ใช้ปลายทางรอทิศทางความต้องการจริง
● ปัจจัยกดดันหลักคืออุปทานใหม่จากโครงการ Simandou ในกินี
● แต่ความต้องการจากภาคอุตสาหกรรมจีนที่เริ่มฟื้นยังช่วยพยุงราคา
● การขนส่งและสต็อกสินค้าที่ท่าเรือหลักของจีนยังคงสูง
● ตลาดมองว่าแนวโน้มเดือนพฤศจิกายนอาจอ่อนตัว หากความต้องการชะลอ
● ผู้ค้าหลายรายลดการถือครองสต็อกเพื่อป้องกันความเสี่ยง
● ราคาตลาดล่วงหน้าใน Dalian ขยับขึ้นเล็กน้อยแต่ไม่ยั่งยืน
⚙️ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเหล็กไทย:
● ราคาวัตถุดิบเหล็กยังคงเสถียร เหมาะต่อการบริหารต้นทุนโรงงานไทย
● หากราคาแร่ลดลงต่อ อาจช่วยลดต้นทุนผู้ผลิตเหล็กในประเทศ
● แต่ต้องระวังความผันผวนจากฝั่งอุปทานโลก (ออสเตรเลีย–กินี)
อ่านข่าวเพิ่มเติม: SteelOrbis
● กระทรวงพาณิชย์ไทยเริ่มสอบสวนการเลี่ยงมาตรการแอนตี้ดัมพ์ (AD) เหล็กชุบสังกะสีเย็นม้วน (Galvanized Cold-Rolled Steel) จากจีน
● พบความผิดปกติในการนำเข้า เช่น การเปลี่ยนชื่อบริษัท หรือผ่านประเทศที่สาม
● มีการขยายขอบเขตมาตรการ AD ให้ครอบคลุมบริษัทจีนหลายแห่ง
● เป้าหมายเพื่อปกป้องผู้ผลิตเหล็กในประเทศจากการแข่งขันไม่เป็นธรรม
● คาดว่าจะใช้เวลาสอบสวนประมาณ 6 เดือน
● มาตรการนี้สะท้อนการดำเนินนโยบายเชิงรุกของไทยในการคุมสินค้านำเข้าเหล็ก
● การเคลื่อนไหวครั้งนี้เป็นไปตามแรงกดดันจากภาคเอกชนเหล็กไทย
● อาจนำไปสู่การเก็บภาษีเพิ่มเติมในกลุ่มสินค้าที่เกี่ยวข้อง
⚙️ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเหล็กไทย:
● ส่งสัญญาณบวกต่อผู้ผลิตเหล็กเคลือบในประเทศ
● ลดการนำเข้าสินค้าราคาถูกจากจีนที่กระทบตลาด
● ช่วยรักษาเสถียรภาพราคาและความสามารถแข่งขันของเหล็กไทย
● เพิ่มความเชื่อมั่นให้กับอุตสาหกรรม downstream เช่น เหล็กแผ่น, โครงสร้าง, และหลังคาเหล็ก
อ่านข่าวเพิ่มเติม: SEAISI
● Goldman Sachs ปรับคาดการณ์ราคาหินแร่เหล็กปี 2026 จากเดิม 85 → 93 ดอลลาร์/ตัน
● เหตุผลจากอุปทานที่เริ่มเข้มงวดมากขึ้นในตลาดโลก
● สต็อกสินค้าทั่วโลกเริ่มลดลงหลังจีนควบคุมกำลังผลิต
● แม้คาดการณ์เชิงบวก แต่ยังระบุว่าภาพรวมตลาด “ไม่แข็งแรง” เนื่องจากดีมานด์โลกยังชะลอ
● ปัจจัยหนุนสำคัญมาจากจีน อินเดีย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
● ราคาที่คาดหมายอยู่ในระดับ “สมดุลระหว่างเสี่ยงกับโอกาส
● นักลงทุนแนะนำให้อุตสาหกรรมวางแผนรับมือราคาวัตถุดิบที่อาจกลับมาแกว่งแรง
⚙️ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเหล็กไทย:
● โรงงานในไทยควรวางแผนจัดหาวัตถุดิบล่วงหน้า
● แนวโน้มราคาวัตถุดิบสูงขึ้นอาจกระทบต้นทุนผลิตปี 2026
● ควรเพิ่มประสิทธิภาพการใช้วัตถุดิบหรือพิจารณาเหล็กรีไซเคิลเพื่อลดต้นทุน
อ่านข่าวเพิ่มเติม: Bloomberg
● รายงานจาก Mysteel ชี้ว่าสินค้าคงคลังเหล็กคาร์บอน 5 ประเภทในโรงงานจีนลดลง 4.1%
● ลดเหลือราว 4.37 ล้านตัน จากสัปดาห์ก่อนหน้า
● สาเหตุจากการขายออกเพิ่มขึ้นและดีมานด์ในประเทศเริ่มฟื้น
● ผลิตภัณฑ์หลัก เช่น Rebar และ HRC มีการขนส่งออกจากโรงงานมากขึ้น
● ปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นหลังโครงการโครงสร้างพื้นฐานในจีนกลับมาเดินหน้า
● ตลาดมองว่าเป็นสัญญาณบวกต่อเสถียรภาพราคาช่วงปลายปี
● คลังสินค้าลดต่อเนื่อง 3 สัปดาห์ติดต่อกัน
⚙️ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเหล็กไทย:
● แนวโน้มราคานำเข้าจากจีนมีโอกาสทรงตัวหรือขยับขึ้น
● ตลาดเหล็กไทยควรจับตาอุปทานจากจีนอย่างใกล้ชิด
● อาจช่วยลดความผันผวนราคานำเข้าช่วงไตรมาสสุดท้าย
อ่านข่าวเพิ่มเติม: SEAISI
● คลังสินค้าของผู้ค้าปลีกเหล็กจีนอยู่ที่ 17.43 ล้านตัน ลดลง 1.7% สัปดาห์ต่อสัปดาห์
● การซื้อขายเหล็กในตลาดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 6.9%
● ตลาดภายในประเทศเริ่มกลับมาคึกคักหลังช่วงหยุดยาว
● สินค้าหลักที่มีการซื้อขายสูงสุดคือ Rebar และ Wire rod
● ผู้ค้าคาดว่าราคาเหล็กจะเริ่มฟื้นตัวเล็กน้อยในเดือนพฤศจิกายน
● ตปัจจัยสนับสนุนมาจากโครงการก่อสร้างและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
⚙️ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเหล็กไทย:
● ดีมานด์เหล็กในจีนที่ฟื้นตัวอาจดันราคาตลาดเอเชียให้สูงขึ้น
● ไทยอาจต้องปรับกลยุทธ์นำเข้าและสต็อกให้เหมาะสม
● ผู้ค้าภายในประเทศควรใช้ช่วงราคายังไม่ฟื้นเพื่อจัดการต้นทุนล่วงหน้า
อ่านข่าวเพิ่มเติม: SEAISI
● Bureau of International Recycling (BIR) รายงานปริมาณการค้าเหล็กรีไซเคิลทั่วโลกลดลง 6.9% YoY
● สาเหตุหลักจากนโยบายกีดกันทางการค้าและการผลิตภายในประเทศเพิ่มขึ้น
● หลายประเทศเริ่มจำกัดการส่งออกเศษเหล็ก (scrap) เพื่อใช้เอง
● แนวโน้ม “Regionalisation” แทน “Globalisation” ชัดเจนขึ้น
● ตลาดยุโรปและเอเชียมีความต้องการเศษเหล็กเพิ่มขึ้น
● อุตสาหกรรมเหล็กรีไซเคิลต้องปรับตัวรับโครงสร้างตลาดใหม่
● คาดว่าการค้าระหว่างประเทศของเศษเหล็กจะยังคงหดตัวในปี 2026
⚙️ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเหล็กไทย:
● ไทยที่พึ่งพาเศษเหล็กนำเข้าอาจเจอต้นทุนสูงขึ้น
● โอกาสในการพัฒนาอุตสาหกรรมรีไซเคิลในประเทศเพิ่มขึ้น
● ผู้ผลิตไทยควรลงทุนในระบบเก็บรวบรวมและแปรรูปเศษเหล็กในประเทศ
อ่านข่าวเพิ่มเติม: SteelOrbis
● สัญญาณจากจีนชัดเจน: ปริมาณ สต็อกเหล็กของโรงงานและค้าปลีกลดลงต่อเนื่อง 3 สัปดาห์
สะท้อนว่าอุปสงค์ภายในประเทศเริ่มกลับมา แม้ยังไม่ร้อนแรง
● ฟิวเจอร์สเหล็กเส้น (Rebar Futures) ปรับขึ้นต่อเนื่องหลังรัฐบาลจีนเข้มงวดการผลิต
เป็นสัญญาณ “คุมอุปทาน – พยุงราคา”
● ตลาดวัตถุดิบ เช่น หินแร่เหล็ก (Iron Ore) ยังทรงตัวในระดับ 100–105 ดอลลาร์/ตัน
นักลงทุนรอดูการตอบสนองของภาคก่อสร้างและอสังหาฯ ในจีน
● แการคาดการณ์ระยะกลาง (ปี 2026) ของ Goldman Sachs ปรับขึ้นราคาหินแร่เป็น 93 ดอลลาร์/ตัน
ชี้ว่าตลาดโลกอาจเริ่มกลับสู่ “ภาวะสมดุลใหม่”
● การควบคุมกำลังการผลิตของจีน (Capacity Swap Policy) เข้มงวดขึ้น
→ โรงงานเหล็กขนาดกลาง-เล็กถูกจำกัดปริมาณผลิต
ส่งผลให้ ราคาเหล็กในตลาดโลกทรงตัวสูงขึ้นเล็กน้อย
● ดีมานด์ในประเทศเริ่มฟื้นจากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน
→ ช่วยดูดซับเหล็กส่วนเกินในตลาด
นโยบายจีนจึงมีแนวโน้ม “พยุงราคาเหล็กโลก” ให้ไม่ร่วงแรงเหมือนต้นปี
● กระทรวงพาณิชย์ไทยเริ่ม สอบสวนการเลี่ยงภาษีเหล็กชุบสังกะสีเย็นจากจีน
หลังพบพฤติกรรมเปลี่ยนชื่อผู้ส่งออกและผ่านประเทศที่สาม
● เป็นการยกระดับมาตรการ “Trade Defense” เพื่อป้องกันการทุ่มตลาด
● หากการสอบสวนสิ้นสุดด้วยการพิสูจน์ได้จริง → จะมีการขยายภาษี AD เพิ่ม
● ถือเป็น “สัญญาณเชิงบวก” ต่ออุตสาหกรรมเหล็กในประเทศ โดยเฉพาะกลุ่ม เหล็กแผ่นเคลือบ (GI/GL)
● รายงานของ Bureau of International Recycling (BIR) ระบุว่า
การค้าเศษเหล็กทั่วโลกลดลงถึง 6.9% เมื่อเทียบปีก่อน
● เหตุผลหลัก: นโยบายคุ้มครองอุตสาหกรรมภายในประเทศ และแนวโน้ม “ภูมิภาคนิยม” (Regionalisation)
● ประเทศผู้ผลิตรายใหญ่เริ่ม “เก็บเศษเหล็กไว้ใช้เอง” แทนการส่งออก
● แนวโน้มนี้จะผลักดันให้ภูมิภาคอาเซียน โดยเฉพาะไทยและเวียดนาม ต้อง
➤ พัฒนาโครงสร้างระบบรีไซเคิลเหล็กภายในประเทศ
➤ ลดการพึ่งพาเศษเหล็กนำเข้าในระยะยาว
● SEAISI รายงานหลายประเทศในภูมิภาค (รวมไทย อินโดนีเซีย เวียดนาม)
มีการชะลอนำเข้าเหล็กสำเร็จรูปจากจีน หลังราคาภายในจีนเริ่มขยับ
● อุตสาหกรรมปลายน้ำ เช่น ก่อสร้างและยานยนต์ เริ่มกลับมาฟื้นตัวช้าๆ
● ราคาตลาด HRC และ Rebar ในอาเซียนมีแนวโน้ม ทรงตัวหรือขยับขึ้นเล็กน้อยใน Q4/2025
● ผู้ประกอบการไทยควรเตรียมรับมือ “ต้นทุนสูงขึ้นเล็กน้อย” จากฝั่งวัตถุดิบและค่า Freight