หน้าแรก
เกี่ยวกับเรา
ผลิตภัณฑ์
ไวร์เมช (Wire Mesh) งานแผง
ไวร์เมช (Wire Mesh) งานม้วน
บทความ
บทความ
เหล็กลวดไวร์รอท คืออะไร?
ไขความลับ! ขนาดตาห่างไวร์เมช ส่งผลต่อความแข็งแรงโครงสร้างอย่างไร?
ไวร์เมชมาตรฐาน มอก.
ผลงาน
ไวร์เมช WMI หัวใจสำคัญของโครงสร้างที่แข็งแรงและทนทาน
ไวร์เมช WMI เสริมความมั่นคงในงานก่อสร้าง × ลานจอดรถคุณภาพที่วัดเล่งเน่ยยี่ 2
อาคารอำนวยการอุทยานวิทยาศาสตร์
งานหมู่บ้าน และโรงงาน Precast
ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ ขอนแก่น
งานถนน งานทางหลวง กรมทาง
ข่าวสาร
ข่าวสาร66 วิบากกรรม“เหล็กแผ่นเคลือบ”
“วินท์ สุธีรชัย” กับเส้นทางความสำเร็จในฐานะ “นักบริหารรุ่นใหม่”
จับตาราคาเหล็กปี 65 อุตสาหกรรมโต ดีมานต์เพิ่ม ดันราคาสูง
สหรัฐเล็งผ่อนปรนภาษีนำเข้าเหล็ก
ข่าวสารปี66 เหล็กเส้น (rebar) และบิลเล็ต (billets)
ใบเสนอราคา
ติดต่อเรา
บทความ
บทความ
ผลงาน
ข่าวสาร
ใบเสนอราคา
ติดต่อเรา
0
Home
ข่าวสาร
5 พฤศจิกายน 2020
19 พฤศจิกายน 2020
0
“ทรัมป์”ใช้ม.232หวดส่งออกเหล็กไทย
Update : 08 พฤศจิกายน 2563
มาตรการ 232 ทรัมป์ขึ้นภาษีเหล็ก 25% ฟาดส่งออกเหล็กไปตลาดสหรัฐวูบ 200,000 ตัน ล่าสุดถูกตัด GSP อีกรอบ กลุ่มเหล็ก ส.อ.ท.แนะปรับตัวควานหาตลาดใหม่
“แคนาดา” แทน ยอมรับต้องจับตา สเตนเลส นิกเกิลอัลลอย คาดโดนหางเลข ด้าน “ทาทาสตีล” หวังผลเลือกตั้งสหรัฐดันยอดการค้าโลก ตลาดเหล็กโลกจะฟื้นอีก
2 ปีข้างหน้า
นายนาวา จันทนสุรคน ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมเหล็ก สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า สหรัฐได้ประกาศตัดสิทธิพิเศษ
ทางภาษีศุลกากร (GSP) เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา นับเป็นครั้งที่ 2 ที่อุตสาหกรรมเหล็กได้รับผลกระทบจากการตอบโต้ทางการค้าของสหรัฐ
หลังจากที่สหรัฐเคยประกาศใช้มาตรการ section 232 (safeguard) ขึ้นภาษีนำเข้าเหล็ก 25% ของราคานำเข้าเมื่อ 2 ปีก่อน (เมื่อวันที่ 23 มี.ค. 2561) ส่งผลให้เหล็กไทย
มีราคาสูงกว่าเหล็กที่ผลิตในอเมริกา 25% ไทยจึงส่งออกเหล็กไปอเมริกาลดลงอย่างต่อเนื่องนับจากปี 2560 จนถึงปัจจุบันหายไปประมาณ 50% เหลือเพียง 200,000 ตัน
“แม้จะประเมินว่าจีเอสพีจะไม่กระทบต่อการส่งออกเหล็กไปยังสหรัฐมากนัก เพราะตลาดลดลงไปมากแล้วจากที่เคยส่งไปปีละกว่า 400,000 ตัน/ปี พอได้รับผลกระทบ
จากมาตรการ section 232 (safeguard) ก็ลดเหลือไม่ถึง 200,000 ตัน/ปี จนถึงปัจจุบันก็มีแค่เหล็กบางประเภท เช่น เหล็กสเตนเลส นิกเกิลอัลลอย เป็นต้น ซึ่งอยู่ในข่าย
จะโดนผลกระทบเด้งที่ 2 จากถูกตัด GSP”
อย่างไรก็ตาม จากบทเรียนครั้งแรกที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2561 ผู้ส่งออกไทยคาดการณ์มาก่อน และรู้ว่าจะเกิดสถานการณ์ต่าง ๆ ขึ้น จึงปรับตัวรับมือด้วยการหาตลาดส่งออกใหม่
โดยมุ่งไปยังประเทศข้างเคียงอย่างแคนาดาแทน รวมถึงใช้การเจรจาต่อสู้ทางกฎหมายเพื่อขอยกเว้น การนำเข้าเป็นกรณีเฉพาะรายสินค้าเหล็กทางไทย นอกจากนี้
กระทรวงพาณิชย์จะต้องปกป้องตลาดในประเทศเอง ด้วยการแก้ไขกฎหมาย เพื่อป้องกันการหลบเลี่ยงมาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด (anti-circumvention : AC) ที่คาดว่า
ในอีก 1-2 เดือน จะประกาศออกมา
ด้านนายราจีฟ มังกัล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทาทาสตีล (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สถานการณ์เหล็กทั่วโลกในขณะนี้ถือว่าค่อนข้างผันผวน โดยพบว่า
การผลิตเหล็กทั่วโลกลดลง 3.2% แต่จีนกลับผลิตเพิ่มขึ้น 4.5% ด้วยเศรษฐกิจจีนกลับฟื้นตัวทำให้มีการเร่งการผลิตเพื่อใช้ในประเทศมากขึ้น
ซึ่งคาดการณ์ว่าทั้งปี 2563 การผลิตทั่วโลกจะยังลดลง 2.4% เหลือ 1,725 ล้านตัน เอเชียลดลง 6% ส่วนปี 2564 ตลาดโลกจะกลับมาขยายตัว 4.1% หรือ 1,795 ล้านตัน
โดยเฉพาะเอเชียจะเพิ่มขึ้น 5.8%
นายวันเลิศ การวิวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่-การผลิต บริษัท ทาทาสตีล กล่าวเสริมว่า การตัด GSP ไม่กระทบทาทาสตีลเลยเพราะตลาดหลักส่งออกของบริษัท
คืออาเซียน อย่างไรก็ตาม หวังว่าการเลือกตั้งสหรัฐจะทำให้บทบาทผู้นำนิ่งขึ้น มีผลต่อการค้าเช่นกัน นั่นอาจส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมเหล็กโดยรวมของไทยที่ส่งออกไปเช่นกัน
ทั้งนี้ ผู้ส่งออกต้องป้องกันความเสี่ยงโดยการหาตลาดใหม่ อย่างทาทาสตีลมุ่งไปอินเดียเพราะเป็นตลาดที่ต้องการสินค้าคุณภาพดีจากไทยจำนวนมาก เป็นตลาดที่เติบโตสูง
โดยเฉพาะหลังจากที่ประเทศอินเดียประกาศคลายล็อกดาวน์ จากสถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลาย ส่งผลให้ปริมาณการส่งออกไปยังอินเดียเพิ่มมากขึ้น เราจะเริ่มส่งออก
จากออร์เดอร์ที่จะเข้ามาในเดือนนี้ถึง 50,000 ตัน ซึ่งจะทำให้สัดส่วนการส่งออกไปต่างประเทศปีนี้ 79,000 ตัน
แหล่งที่มา : ประชาชาติธุรกิจ
0
No translations available for this page