ไวร์เมชกับเหล็กเส้น ต่างกันอย่างไร? ใช้อะไรดีกว่าสำหรับงานก่อสร้าง
ไวร์เมชกับเหล็กเส้น เป็นวัสดุเสริมคอนกรีตที่นิยมในงานก่อสร้างทั้งขนาดเล็กและใหญ่
แล้ววัสดุแบบไหนเหมาะกับงานของคุณ? มาดูข้อแตกต่าง การใช้งาน และจุดเด่นของแต่ละประเภท
เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกได้อย่างถูกต้อง
ในการเลือกวัสดุเสริมแรงสำหรับงานคอนกรีต หนึ่งในคำถามยอดฮิตของผู้รับเหมาและเจ้าของโครงการคือ
“ไวร์เมชกับเหล็กเส้น แบบไหนดีกว่า?” ทั้งสองวัสดุต่างมีจุดเด่นเฉพาะ และเหมาะกับการใช้งานที่แตกต่างกัน
บทความนี้โดย WMI Group จะพาคุณเปรียบเทียบแบบชัดเจน เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้แม่นยำยิ่งขึ้น
1. เปรียบเทียบกระบวนการผลิตและการติดตั้ง | ไวร์เมชกับเหล็กเส้น
ไวร์เมช
● เป็นตะแกรงเหล็กเชื่อมสำเร็จรูป
ผลิตจากลวดเหล็กกล้าเชื่อมด้วยระบบอัตโนมัติ (Fully Automated Welding System)
● ควบคุมระยะห่างของตะแกรงได้อย่างแม่นยำ ลดความผิดพลาดจากแรงงาน
● ติดตั้งเร็วขึ้นถึง 50%
● ลดค่าแรงคนงานกว่า 50%
เหล็กเส้น
● เป็นเหล็กแท่ง มีทั้งผิวเรียบ และผิวข้ออ้อย
● ต้องตัด ดัด และผูกมือทุกขั้นตอน
● ใช้แรงงานฝีมือสูง ติดตั้งช้ากว่า
● ต้นทุนแรงงานสูงกว่าไวร์เมชอย่างชัดเจน
2. เปรียบเทียบต้นทุนและประสิทธิภาพ | ไวร์เมชกับเหล็กเส้น
ไวร์เมช
● ราคาต่อพื้นที่ต่ำกว่าของเหล็กเส้น
● ใช้วัสดุน้อยกว่า ลดขยะในไซต์งาน
● กระจายแรงดึงได้สม่ำเสมอ ลดการแตกร้าวของพื้นคอนกรีต
● ประหยัดทั้งวัสดุและค่าแรง
เหล็กเส้น
● วัสดุและแรงงานมีต้นทุนรวมสูง
● รับแรงเฉพาะจุดได้ดี เหมาะสำหรับคาน เสา และโครงสร้างหลักที่รับน้ำหนักมาก
3. จุดเด่นเฉพาะ ของไวร์เมช WMI
เครื่องจักรผลิตแม่นยำระดับอุตสาหกรรม
● ระบบ Fully Automated ช่วยลดข้อผิดพลาดจากแรงงาน
● ควบคุมขนาดลวดและระยะช่องด้วยโปรแกรมอัตโนมัติ
● ลดความคลาดเคลื่อนจากแรงงาน → คุณภาพงานคอนกรีตสม่ำเสมอ
วัตถุดิบคุณภาพสูงตามมาตรฐาน
● ผลิตจากเหล็กมาตรฐาน มอก. 747-2531 และ มอก. 943-2533
● ตรวจสอบคุณสมบัติทางกลทุกล็อต (Yield, Elongation, Tensile Strength)
ผลิตตามแบบ (Made to Order)
● ลดการตัดทิ้ง ลดเศษเหล็กหน้างาน
● ส่งของตามแบบภายใน 3–5 วัน
● พร้อม ใบรับรอง COA, เอกสารรับรองคุณภาพเหล็ก
ใช้ได้กับงานโครงสร้างจริง
● ผ่าน Pull‑Out Test และ Crack Control Test
● รองรับพื้นโรงงาน โกดัง Precast ฐานราก และพื้นโพสต์เทนชั
รองรับงานราชการ งานอุตสาหกรรม และโครงการใหญ่
● จัดทำ COA และเอกสารรับรองตาม Spec โครงการ
● มีทีมวิศวกรให้คำปรึกษาด้านเทคนิคครบวงจร
ไวร์เมช WMI
ไวร์เมช WMI เป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์งานก่อสร้างยุคใหม่ ทั้งด้านความเร็ว ลดต้นทุนแรงงาน และคุณภาพการกระจายแรงที่เหนือกว่า ในขณะที่ เหล็กเส้น ยังคงเหมาะกับโครงสร้างหลักที่ต้องการรับน้ำหนักเฉพาะจุด เช่น เสา คาน และโครงสร้างรองรับ
ส่วนเหล็กเส้น ยังคงเหมาะกับงานโครงสร้างหลักที่ต้องรับน้ำหนักมากเฉพาะจุด
หากคุณกำลังมองหา…
ตะแกรงไวร์เมชคุณภาพสูง ได้มาตรฐาน มอก.
เลือก WMI Group
ประโยชน์ของการใช้ตะแกรงไวร์เมช แทนเหล็กเส้นในงานก่อสร้าง
ในยุคที่ความรวดเร็วและความแม่นยำในการก่อสร้างเป็นเรื่องสำคัญ วัสดุก่อสร้างอย่าง “ตะแกรงไวร์เมช”
หรือ ไวร์เมช แทนเหล็กเส้น จึงได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะในงานพื้น ผนังคอนกรีต และโครงการที่ต้องการความแข็งแรง
พร้อมควบคุมคุณภาพอย่างต่อเนื่อง
ตะแกรงไวร์เมช คือ ตะแกรงเหล็กที่ผลิตจากลวดเหล็กกล้าคุณภาพสูง
ผ่านกระบวนการเชื่อมด้วยเครื่องจักรระบบอัตโนมัติ (Fully Automated)
ซึ่งช่วยให้สามารถควบคุมขนาด ช่องไฟ และความแข็งแรงได้อย่างแม่นยำ
ลดความคลาดเคลื่อนที่มักเกิดจากแรงงานคนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ข้อดีของการใช้ไวร์เมชแทนเหล็กเส้น
1. เพิ่มความแข็งแรงให้กับโครงสร้าง
ตะแกรงไวร์เมชช่วยให้คอนกรีตยึดเกาะกันได้ดีขึ้น ลดโอกาสแตกร้าว หรือแยกตัวของพื้นและผนังคอนกรีต ทำให้โครงสร้างมีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น เหมาะสำหรับทั้งงานพื้นโรงงาน พื้นบ้าน หรืออาคารขนาดใหญ่
2. รับแรงได้ดี กระจายแรงสม่ำเสมอ
ไวร์เมชมีคุณสมบัติในการกระจายแรงดึงและแรงกดทับได้อย่างสม่ำเสมอ จึงสามารถรองรับแรงกระแทกได้ดี เหมาะสำหรับงานที่มีการใช้งานหนัก เช่น พื้นโกดัง หรือพื้นถนนคอนกรีต
3. ติดตั้งเร็ว ลดเวลา ลดต้นทุนแรงงาน
เนื่องจากไวร์เมชสามารถนำไปติดตั้งได้ทันทีโดยไม่ต้องผูกเหล็กหน้างาน ช่วยลดระยะเวลาการทำงานและประหยัดแรงงานได้ถึง 50% เมื่อนำไปใช้กับโครงการขนาดใหญ่ ประสิทธิภาพจึงเห็นได้ชัดเจน
4. ลดเศษวัสดุและสูญเสียหน้างาน
ไวร์เมชสามารถสั่งผลิตตามขนาดที่ต้องการได้ (Made to Order) ทำให้ไม่เกิดเศษวัสดุจากการตัดทิ้งหน้างาน ลดต้นทุนสูญเปล่า และช่วยควบคุมคุณภาพของวัสดุได้ดีขึ้น
5. มาตรฐานสูง เหมาะกับโครงการราชการ
ตะแกรงไวร์เมชจาก WMI Group ผลิตตามมาตรฐาน มอก. 747-2531 และ มอก. 943-2533 พร้อมใบรับรอง COA ทุกล็อต ผ่านการทดสอบด้านแรงดึง (Pull-Out Test) และ Crack Control Test ใช้ได้กับงานราชการและโครงการที่ต้องมีการตรวจสอบ Spec