Admin2

8 พฤษภาคม 2025

คำถามที่พบบ่อย

ไวร์เมช ราคา | คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการสั่งซื้อไวร์เมช WMI “กำลังมองหา ไวร์เมช ราคา ที่ชัดเจนและโปร่งใสอยู่ใช่ไหมคะ?
บทความนี้รวบรวมคำถามที่พบบ่อยจากลูกค้าจริงของ WMI Group ไม่ว่าจะเป็น
ขั้นต่ำในการสั่งซื้อ การจัดส่ง ขนาดที่มี และตัวอย่างราคาจริง พร้อมคำตอบที่ชัดเจน เข้าใจง่าย เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้เร็วขึ้น”   Q1: 🧾 หากต้องการใบเสนอราคา ต้องเตรียมข้อมูลอะไรบ้าง? 💡Answer:
เพื่อให้เราเสนอราคาได้ตรงตามที่ต้องการ ขอข้อมูลเพิ่มเติมดังนี้นะคะ:
• ชื่อบริษัท / ชื่อผู้ติดต่อ
• เบอร์โทร
• ขนาดลวด
• ระยะห่างตะแกรง
• ขนาด กว้าง×ยาว
• จำนวนที่ใช้งาน
• สถานที่จัดส่ง/หน้างาน
หากไม่แน่ใจเรื่องขนาดหรือต้องการคำแนะนำเพิ่มเติม สามารถสอบถามแอดมินได้เลยค่ะ Q2: 📦 ปริมาณขั้นต่ำในการผลิต และสั่งซื้ออยู่ที่เท่าไหร่? 💡Answer:
• 9 มม. @20 – ขั้นต่ำ 1,500 ตร.ม.
• 6 มม. @20 – ขั้นต่ำ 2,500 ตร.ม.
• 4 มม. @20 – ขั้นต่ำ 3,000 ตร.ม. Q3:💸 ไวร์เมชราคากี่บาท 💡Answer: ราคาของไวร์เมชขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย
เช่น ขนาดของลวด, ระยะห่างของตา, ปริมาณที่ใช้งาน และระยะทางในการจัดส่ง
หากลูกค้าสามารถส่งรายละเอียดเบื้องต้นมาให้ ทางเราจะรีบดำเนินการเสนอราคาให้โดยเร็วที่สุดค่ะ Q4: 📏 มีขนาดไวร์เมชให้เลือกใช้งานกี่รูปแบบ? 💡Answer:   ม้วน
(RB)
ม้วน
(DB)
แผง
(RB)
แผง
(DB) เลือกขนาดลวด 4.00 mm 6.00 mm 8.00 mm 9.00 mm 12.00 mm ระยะห่าง 10×10 cm 15×15 cm 20×20 cm 25×25 cm 30×30 cm ความกว้าง 2.0 m 2.5 m 3.0 m 3.5 m ความยาว 25 m 30 m 35 m 40 m 45 m 50 m 📩 ส่งข้อมูลไปที่ LINE เลือกขนาดลวด 4.00 mm 6.00 mm ระยะห่าง 10×10 cm 15×15 cm 20×20 cm 25×25 cm 30×30 cm ความกว้าง 2.0 m 2.5 m 3.0 m 3.5 m ความยาว 25 m 30 m 35 m 40 m 45 m 50 m 📩 ส่งข้อมูลไปที่ LINE เลือกขนาดลวด 4.00 mm 6.00 mm 8.00 mm 9.00 mm 12.00 mm ระยะห่าง 10×10 cm 15×15 cm 20×20 cm 25×25 cm 30×30 cm ความกว้าง 2.0 m 2.5 m 3.0 m 3.5 m ความยาว 5 m 6 m 7 m 📩 ส่งข้อมูลไปที่ LINE เลือกขนาดลวด 4.00 mm 6.00 mm 8.00 mm 9.00 mm 12.00 mm ระยะห่าง 10×10 cm 15×15 cm 20×20 cm 25×25 cm 30×30 cm ความกว้าง 2.0 m 2.5 m 3.0 m 3.5 m ความยาว 5 m 6 m 7 m 📩 ส่งข้อมูลไปที่ LINE
3 พฤษภาคม 2025

ไวร์เมช Smart Guide | แนะนำขนาดไวร์เมชอัตโนมัติ

ไวร์เมช WMI – ตะแกรงเหล็กมาตรฐาน มอก. แข็งแรง ไม่ลดสเปก ไวร์เมช WMI คือวัสดุก่อสร้างชนิดตะแกรงเหล็กที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในงานก่อสร้างที่ต้องการความแข็งแรง
เช่น ถนน พื้นโรงงาน และโครงสร้างคอนกรีต ด้วยคุณสมบัติของเหล็กเต็มเส้น มาตรฐาน มอก. 737-2531
ไวร์เมชช่วยให้ติดตั้งง่าย ประหยัดเวลา และเพิ่มความปลอดภัยให้กับโครงสร้าง เลือกประเภทงานก่อสร้างของคุณ 🛠️ — กรุณาเลือกงานก่อสร้าง —🏠 พื้นบ้าน / ห้องน้ำ / โรงรถ🏢 โกดัง / ห้าง / ถนนทั่วไป✈️ สนามบิน / โรงงานหนัก / เขื่อน
คุณสมบัติเด่นของตะแกรงเหล็กไวร์เมช WMI • เพิ่มความแข็งแรง: รับแรงดึงสูงกว่าเหล็กเส้นถึง 2 เท่า
• ไวร์เมชมาตรฐาน มอก. ผลิตภายใต้มาตรฐานอุตสาหกรรม มอก. 747-2531, มอก. 943-2533 และ มอก. 737-2549
• ติดตั้งง่ายและรวดเร็ว: ลดเวลาและต้นทุนในการก่อสร้าง   การใช้งานตะแกรงเหล็กไวร์เมชในงานก่อสร้าง • ใช้เสริมแรงในงานเทพื้น ถนนคอนกรีต พื้นโรงงาน ฯลฯ
• ลดเวลาการผูกเหล็กแบบเดิม
• เหมาะกับงานก่อสร้างทุกขนาด   เหตุผลที่ควรเลือกไวร์เมช WMI สำหรับโครงสร้างคอนกรีต • ประหยัดต้นทุน: ลดค่าใช้จ่ายได้ถึง 30%
• สะดวกและยืดหยุ่น: ผลิตได้ตามขนาดที่ต้องการ
• เพิ่มความรวดเร็ว: ลดเวลาการติดตั้งถึง 90%
• คุณภาพสูง: ขนาดและระยะห่างตะแกรงสม่ำเสมอ ไม่บิดงอง่าย   เทคโนโลยีการผลิตตะแกรงเหล็กไวร์เมช มาตรฐาน มอก. ไวร์เมช WMI ผลิตจากลวดเหล็กรีดเย็นคุณภาพสูง
ด้วยเทคโนโลยีการเชื่อมระบบความต้านทานไฟฟ้า (Electrical Resistance Welding)
ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการก่อสร้างและทดแทนการผูกเหล็กแบบดั้งเดิมได้อย่างมีประสิทธิภาพ   ข้อดีของการใช้ตะแกรงเหล็กไวร์เมช WMI • เสริมแรงคอนกรีตได้ดี: เพิ่มความแข็งแรงให้โครงสร้างได้อย่างมีประสิทธิภาพ
• ติดตั้งรวดเร็ว: ลดเวลาการติดตั้งได้อย่างมาก ลดต้นทุนและค่าแรง
• ลดการสูญเสียจากการตัดเหล็ก: เพิ่มประสิทธิภาพในการใช้วัสดุ
• ไวร์เมชมาตรฐานอุตสาหกรรม มอก.
เพื่อรับรองคุณภาพและความปลอดภัยของวัสดุในทุกๆ ขั้นตอนการผลิต ขนาดไวร์เมช WMI ยอดนิยม 1. ไวร์เมช 4 มม. @20 (ลวดกลม)
• นิยมใช้ในงานเทพื้นทั่วไป งานก่อสร้างบ้าน อาคารพาณิชย์ 2. ไวร์เมช 6 มม. @20 (ลวดกลม)
• รับผลิตขั้นต่ำ 2,500 ตร.ม.
• เหมาะสำหรับงานเสริมแรงคอนกรีตขนาดกลางถึงใหญ่ 3. ไวร์เมช 9 มม. @15 (ข้ออ้อย)   คำถามที่พบบ่อย Q1: 🧾 ขอใบเสนอราคา ต้องเตรียมข้อมูลอะไรบ้างคะ? 💡Answer: เพื่อให้เราเสนอราคาได้ตรงตามที่ต้องการ ขอข้อมูลเพิ่มเติมดังนี้นะคะ:
• ชื่อบริษัท / ชื่อผู้ติดต่อ
• เบอร์โทร
• ขนาดลวด
• ระยะห่างตะแกรง
• ขนาด กว้าง×ยาว
• จำนวนที่ใช้งาน
• สถานที่จัดส่ง/หน้างาน Q2: 📦 ขั้นต่ำในการสั่งซื้อเท่าไหร่? 💡Answer:
• 9 มม. @20 – ขั้นต่ำ 1,500 ตร.ม.
• 6 มม. @20 – ขั้นต่ำ 2,500 ตร.ม.
• 4 มม. @20 – ขั้นต่ำ 3,000 ตร.ม.
แนะนำสั่งล่วงหน้าเพื่อให้เราผลิตได้ทันใช้งานน้า Q3: 💸 สอบถามราคา / ไวร์เมชขนาดต่างๆ ราคากี่บาท 💡Answer: ราคาขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ขนาดลวด, ระยะตา, จำนวนที่ใช้ และระยะทางจัดส่ง
รบกวนส่งรายละเอียดมาให้เรานิดนึงน้า เราจะรีบเสนอราคาสวยๆ ให้เลยค่าา ตัวอย่างราคาบางรายการ:
• ไวร์เมชข้ออ้อย 9 มม. @15×15 ใช้ 11,000 ตรม = 161 บาท/ตรม รวม VAT
• ไวร์เมช 4 มม. @20 รับเองหน้าโรงงาน = 25 บาท/ตรม รวม VAT
• ไวร์เมช 4 มม. ตา 10×30 ขนาด 11,000 ตรม = 28.40 บาท/ตรม รวม VAT
(ราคานี้เป็นราคาเฉพาะเคสและอาจเปลี่ยนตามจำนวน/สถานที่จัดส่งค่ะ) Q4: 📏 มีไวร์เมชให้เลือกกี่ขนาด? 💡Answer:
• ขนาดลวด: 2.8 – 12 มม.
• ระยะห่างตา: @10×10, @20×20, @10×30, @25×25, @15×15, @30×30
• แบบแผง: กว้าง 2–3.5 เมตร / ยาว 5–7 เมตร
• แบบม้วน: กว้าง 2–3.5 เมตร / ยาว 25 หรือ 50 เมตร
ขนาดพิเศษ สามารถสั่งผลิตได้นะคะ 💛 Q5: 📍 โรงงานตั้งอยู่ที่ไหนบ้าง? 💡Answer: WMI Group 5 มีโรงงานผลิต 5 สาขา ครอบคลุมพื้นที่ทุกภูมิภาค
1. จ. นนทบุรี
บจก. ไวร์เมช อินดัสทรี
2. จ.นครสวรรค์
บจก. ดับบลิวเอ็มไอ ไวร์เมช
3. จ. นครราชสีมา
ไวร์เมช ราชสีมา
4. จ. ขอนแก่น
บจก. ไวร์เมช ขอนแก่น
5. จ. ชลบุรี
ไวร์เมช ชลบุรี Q6: 🚚 จัดส่งไหมคะ? คิดราคายังไง? 💡Answer: จัดส่งฟรี! เมื่อสั่ง 4 ตันขึ้นไป
หรือสั่งไม่ถึงก็สามารถรับเองหน้าโรงงานได้ค่ะ Q7: 🔧 มีขั้นต่ำการผลิตยังไงบ้าง? 💡Answer:
• 9 มม. @20 👉 ขั้นต่ำ 1,500 ตรม
• 6 มม. @20 👉 ขั้นต่ำ 2,500 ตรม
• 4 มม. @20 👉 ขั้นต่ำ 3,000 ตรม
แนะนำสั่งล่วงหน้าเพื่อให้เราผลิตได้ทันใช้งานน้า 🛠️ Q8: ⏳ ถ้าไม่มีของเสต๊อกไว้ รอนานไหม? 💡Answer: สั่งผลิตใหม่ ใช้เวลา ประมาณ 7-10 วันค่ะ ☺️ Q9: ✅ มี มอก. ไหม? 💡Answer: มีค่ะ มาตรฐาน มอก. + รับรอง Made in Thailand ด้วยน้าา
• มอก. 747-2531 ผลิตภัณฑ์ลวดเหล็กกล้าดึงเย็นเสริมคอนกรีต
• มอก. 943-2533 ผลิตภัณฑ์ลวดเหล็กกล้าข้ออ้อยดึงเย็นเสริมคอนกรีต
• มอก. 737-2549 ผลิตภัณฑ์ตะแกรงเหล็กกล้าเชื่อมติดเสริมคอนกรีต 💙 หากคุณกำลังมองหาตะแกรงไวร์เมชคุณภาพสูง ที่ได้มาตรฐาน มอก. เลือก WMI Group
ติดต่อเราเพื่อขอใบเสนอราคาและคำปรึกษาเกี่ยวกับการเลือกใช้วัสดุก่อสร้างที่เหมาะสมสำหรับโครงการของคุณ
        ไวร์เมชแบบม้วน ไวร์เมชแบบแผง
27 มีนาคม 2025

ตะแกรงไวร์เมชคืออะไร? มือใหม่อ่านจบ เลือกซื้อได้เลย

ตะแกรงไวร์เมช คืออะไร? มือใหม่อ่านจบ เลือกซื้อได้เลย ตะแกรงไวร์เมช คืออะไร? หากคุณกำลังมองหาวัสดุก่อสร้างที่ช่วยเสริมความแข็งแรงให้กับงานคอนกรีต
ไวร์เมช เป็นตัวเลือกที่ขาดไม่ได้ ไวร์เมชช่วยให้โครงสร้างทนทาน
และลดปัญหาการแตกร้าวในการก่อสร้าง ไม่ว่าจะเป็น อาคาร บ้านพัก ถนน หรือโรงงาน
โครงสร้างที่แข็งแรงเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึงตั้งแต่ต้น
หากเลือกวัสดุก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน อาจส่งผลให้โครงสร้างรับน้ำหนักได้น้อย เสี่ยงต่อการแตกร้าว หรือทรุดตัวในอนาคต
ซึ่งหนึ่งในวัสดุที่ขาดไม่ได้ในงานคอนกรีตเสริมเหล็กก็คือ ตะแกรงเหล็กไวร์เมช   ตะแกรงไวร์เมช (Wire Mesh) คืออะไร? ตะแกรงไวร์เมช (Wire Mesh) หรือที่หลายคนอาจเรียกกันว่า ไวร์เมท, ไวเมท หรือไวเมต
เป็น ตะแกรงเหล็กสำเร็จรูป ที่ถูกเชื่อมติดกันเป็นผืน มีลักษณะเป็นตารางสี่เหลี่ยม
โดยผลิตจาก ลวดเหล็กรีดเย็น (Cold Drawn Steel Wire) ทำให้มีความแข็งแรงสูง
สามารถรองรับน้ำหนักได้ดี และช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับงานคอนกรีต และทำให้งานก่อสร้างเสร็จไวขึ้น ไวร์เมชดีอย่างไร? ✅ แข็งแรง ทนทาน รองรับน้ำหนักได้ดี
✅ ลดการแตกร้าวของคอนกรีต
✅ ประหยัดเวลาในการติดตั้งกว่าการผูกเหล็กธรรมดา
✅ ลดต้นทุนค่าแรงงาน เพราะติดตั้งง่าย 👉 อ่านเพิ่มเติม: ไวร์เมชคืออะไร? ทำไมต้องใช้ไวร์เมช?   ตะแกรงเหล็กไวร์เมชมีขนาดอะไรบ้าง? หนึ่งในคำถามที่พบบ่อยคือ ควรใช้ไวร์เมชขนาดเท่าไหร่?
ซึ่งในท้องตลาดไวร์เมชมีให้เลือกหลากหลายขนาด ตั้งแต่ ไวร์เมช 2.8 มม. ไปจนถึง ไวร์เมช 12 มม.
ขึ้นอยู่กับประเภทของงานก่อสร้างที่ต้องการใช้งาน ตัวอย่างขนาดตะแกรงไวร์เมชที่นิยมใช้: 🔹ไวร์เมช 4 มม. สำหรับงานพื้นบ้านพักอาศัย
🔹ไวร์เมช 6 มม. สำหรับงานถนนคอนกรีต
🔹ไวร์เมช 9 มม. สำหรับงานพื้นโรงงานที่ต้องรับน้ำหนักมาก 👉 ดูตารางขนาดตะแกรงไวร์เมชทั้งหมดได้ที่นี่: ควรใช้ไวร์เมชขนาดเท่าไหร่? ประเภทของตะแกรงไวร์เมช และการเลือกใช้งานให้เหมาะสม ตะแกรงไวร์เมชเป็นวัสดุก่อสร้างที่ได้รับความนิยม เนื่องจากช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับโครงสร้างคอนกรีต ลดระยะเวลาในการทำงาน และช่วยควบคุมคุณภาพของงานก่อสร้างให้เป็นมาตรฐาน โดย ตะแกรงไวร์เมช สามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ได้แก่ ตะแกรงไวร์เมชแบบแผ่น และ ตะแกรงไวร์เมชแบบม้วน ซึ่งแต่ละประเภทมีคุณสมบัติและการใช้งานที่แตกต่างกัน ดังนี้ 1. ตะแกรงไวร์เมชแบบแผ่น ตะแกรงไวร์เมชแบบแผ่นเป็นแบบที่มีความแข็งแรงสูง เพราะใช้ลวดเหล็กที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางขนาดใหญ่กว่า 6 มิลลิเมตรขึ้นไป
จึงสามารถรองรับน้ำหนักและแรงกดได้ดี เหมาะสำหรับงานก่อสร้างที่ต้องการความแข็งแรงเป็นพิเศษ เช่น • ลานจอดรถ ภายในห้างสรรพสินค้าและอาคารสำนักงาน • ลานสนามบิน ที่ต้องรับน้ำหนักของเครื่องบิน • ถนนและทางเดินรถ ที่มีการสัญจรของยานพาหนะหนัก • โกดังสินค้าและโรงงานอุตสาหกรรม ที่ต้องการฐานรากที่มั่นคง • รางรถไฟฟ้า ที่ต้องรองรับแรงสั่นสะเทือน ตะแกรงไวร์เมชแบบแผ่นมักถูกเลือกใช้งานเนื่องจากสามารถติดตั้งได้ง่าย ช่วยลดระยะเวลาในการทำงาน
และให้ความแข็งแรงที่เหนือกว่าตะแกรงไวร์เมชแบบม้วน 2. ตะแกรงไวร์เมชแบบม้วน ตะแกรงไวร์เมชแบบม้วนมีความยืดหยุ่นสูงกว่าและสามารถม้วนเก็บได้ง่าย จึงสะดวกต่อการขนส่งและติดตั้ง โดยทั่วไปผลิตจากลวดเหล็กที่มีขนาดเริ่มต้นตั้งแต่ 4 มิลลิเมตรขึ้นไป เหมาะสำหรับงานก่อสร้างที่ไม่ได้รับน้ำหนักมาก เช่น • งานเทพื้นบ้านเรือนทั่วไป เช่น พื้นห้องนั่งเล่น พื้นห้องครัว หรือพื้นที่ที่ไม่ได้รองรับน้ำหนักสูง • พื้นทางเดินในสวน หรือพื้นที่ใช้สอยภายในบ้าน • งานปรับปรุงต่อเติมขนาดเล็ก ที่ต้องการเสริมโครงสร้างคอนกรีต • ตะแกรงไวร์เมชแบบม้วนช่วยลดปัญหาการขนส่งและจัดเก็บ
เพราะสามารถม้วนให้มีขนาดกะทัดรัด ประหยัดพื้นที่ และสะดวกต่อการใช้งานในไซต์ก่อสร้าง เลือกตะแกรงไวร์เมชให้เหมาะกับงานก่อสร้าง หากเป็นงานโครงสร้างขนาดใหญ่ที่ต้องการความแข็งแรงแนะนำให้เลือกใช้ตะแกรงไวร์เมชแบบแผ่น หากเป็นงานก่อสร้างทั่วไปที่ไม่ได้รับน้ำหนักมาก แนะนำให้เลือกใช้ตะแกรงไวร์เมชแบบม้วน 👉 ดูข้อมูลเพิ่มเติม: ตะแกรงไวร์เมชแบบม้วน, ตะแกรงไวร์เมชแบบแผ่น   คำนวณจำนวนตะแกรงไวร์เมชที่ต้องใช้ยังไง? ในการใช้ ตะแกรงไวร์เมช เพื่อเทคอนกรีต
หนึ่งในขั้นตอนสำคัญคือ การคำนวณปริมาณไวร์เมชที่ต้องใช้ ให้เหมาะสมกับพื้นที่จริง
เพื่อให้ประหยัดต้นทุนและลดการสูญเสียวัสดุ
สิ่งสำคัญคือต้องคำนวณปริมาณที่ใช้ให้เหมาะสม เช่น หากต้องเทพื้นคอนกรีตบ้าน โรงจอดรถ หรือถนน
ต้องรู้ว่า ตะแกรงไวร์เมชแต่ละขนาดครอบคลุมพื้นที่ได้เท่าไหร่ และ ใช้กี่แผ่น เพื่อคุมงบประมาณและลดของเสีย สูตรคำนวณตะแกรงเหล็กไวร์เมชเบื้องต้น: 📌 วิธีคำนวณไวร์เมชง่ายๆ
1. วัดพื้นที่ที่ต้องการใช้ (กว้าง × ยาว)
2. เลือกขนาดตะแกรงที่เหมาะสม
3. ใช้สูตรคำนวณปริมาณไวร์เมช สูตรคำนวณหาจำนวนตะแกรงเหล็กไวร์เมช: พื้นที่หน้างาน (ตร.ม.) ÷ ขนาดไวร์เมช (ตร.ม.) = จำนวนที่ต้องใช้ 📝 ตัวอย่างที่ 1: • ต้องเทพื้นโรงจอดรถ ขนาด 10 × 25 ม. = 250 ตร.ม.
• เลือกไวร์เมชแบบม้วน ขนาด 2 × 25 ม. (50 ตร.ม./ม้วน)
👷 ต้องใช้ไวร์เมช 250 ÷ 50 = 5 ม้วน 📝 ตัวอย่างที่ 2: • ต้องเทพื้นบ้าน ขนาด 5 × 10 ม. = 50 ตร.ม.
• เลือกไวร์เมชแบบม้วน ขนาด 2 × 25 ม. (50 ตร.ม./ม้วน)
👷 ต้องใช้ไวร์เมช 50 ÷ 50 = 1 ม้วน 👉 ดูสูตรคำนวณตะแกรงเหล็กไวร์เมชทั้งหมดได้ที่นี่: ต้องใช้ไวร์เมชเท่าไหร่?   วิธีเลือกซื้อตะแกรงไวร์เมชให้ได้ของดี คุ้มค่า การเลือกซื้อตะแกรงไวร์เมชไม่ใช่แค่ดูราคาถูกที่สุด แต่ต้องคำนึงถึงคุณภาพของวัสดุ และมาตรฐานที่ได้รับการรับรอง
เช่น ไวร์เมช มอก. ซึ่งเป็นมาตรฐานอุตสาหกรรมที่ช่วยให้มั่นใจว่าไวร์เมชมีความแข็งแรงและปลอดภัยสำหรับงานก่อสร้าง เคล็บลับการเลือกไวร์เมชให้ได้ของดี ✔ เลือกไวร์เมชที่ผ่านมาตรฐาน มอก. เพื่อความแข็งแรงและปลอดภัย ✔ เลือกลวดเหล็กรีดเย็นแท้ เพื่อให้ทนทานและรับแรงดึงได้ดี ✔ ตรวจสอบรอยเชื่อมของตะแกรง ควรมีการเชื่อมต่อแน่น ไม่หลุดง่าย ✔ เลือกขนาดให้ เหมาะกับงานที่ต้องใช้
เช่น ไวร์เมช 4 มม. เหมาะสำหรับพื้นบ้านพักอาศัย
แต่ ไวร์เมช 6 มม. อาจเหมาะสำหรับงานที่รับน้ำหนักมากกว่า ✔ ตรวจสอบ เหล็กใหม่ ไม่เป็นสนิม 👉 เช็คลิสต์เลือกซื้อไวร์เมชให้คุ้มค่า: วิธีเลือกซื้อไวร์เมชให้ได้ของดี คุ้มค่า 💙 หากคุณกำลังมองหาตะแกรงไวร์เมชคุณภาพสูง ที่ได้มาตรฐาน มอก. เลือก WMI Group        
22 มีนาคม 2025

ไวร์เมชคืออะไร? ทำไมงานก่อสร้างต้องใช้ตะแกรงเหล็กไวร์เมช

ไวร์เมชคืออะไร? ทำไมงานก่อสร้างต้องใช้ตะแกรงเหล็กไวร์เมช ไวร์เมช (Wire Mesh) หรือตะแกรงเหล็กเส้น เป็นวัสดุที่หลายคนคุ้นเคยในงานก่อสร้าง ไวร์เมช หรือ ตะแกรงเหล็กไวร์เมช เป็นวัสดุเสริมแรงคอนกรีตที่ผลิตจาก ลวดเหล็กรีดเย็นคุณภาพสูง (Cold Drawn Steel)
ผ่านกระบวนการเชื่อมติดด้วยเครื่องจักรอัตโนมัติที่มีความแม่นยำสูง
ทำให้จุดตัดของลวดเหล็กหลอมละลายเป็นเนื้อเดียวกัน เพิ่มความแข็งแรงและทนทาน
วัสดุนี้สามารถลดเวลา แรงงาน และต้นทุนในงานก่อสร้างได้มากกว่า 80% ไวร์เมชคืออะไร หน้าที่สำคัญของไวร์เมชในงานก่อสร้าง สรุป และข้อเสนอแนะ ไวร์เมช (Wire Mesh) คืออะไร? ไวร์เมช (WireMesh) คือตะแกรงเหล็กเส้นสำเร็จรูปที่ใช้แทนการผูกเหล็กธรรมดา
ผลิตจากลวดเหล็กรีดเย็น (Cold Drawn Steel Wire) ผ่านกระบวนการเชื่อมอาร์กด้วยไฟฟ้า
ทำให้ทุกจุดตัดหลอมเป็นเนื้อเดียวกัน เพิ่มความแข็งแรงและทนทาน
เหมาะสำหรับงานก่อสร้างที่ต้องการเสริมความแข็งแกร่งให้กับโครงสร้างคอนกรีต เช่น พื้นถนน อาคาร และงานก่อสร้างอื่นๆ ตะแกรงไวร์เมชมีให้เลือกทั้งแบบม้วนและแบบแผ่น โดยขนาดของเส้นลวดมีตั้งแต่ 2 – 12 มิลลิเมตร
ซึ่งช่วยให้สะดวกต่อการใช้งานและลดเวลาการติดตั้งเมื่อเทียบกับการผูกเหล็กเสริมด้วยมือแบบดั้งเดิม
มีความแม่นยำและสม่ำเสมอในระยะห่างของตะแกรง สามารถผลิตเป็นรูปสี่เหลี่ยมจตุรัสหรือสี่เหลี่ยมผืนผ้า คุณสมบัติเด่นของเหล็กไวร์เมช ✔ มีความยืดหยุ่นและแข็งแรง
✔ สามารถรับแรงดึง แรงอัด และน้ำหนักได้ดี
✔ ช่วยลดโอกาสที่คอนกรีตจะแตกร้าว
✔ เสริมความแข็งแรงให้โครงสร้างโดยรวม ไวร์เมช จึงเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์งานก่อสร้างยุคใหม่ที่ต้องการความรวดเร็วและคุณภาพสูง
เหมาะสำหรับโครงการอสังหาริมทรัพย์ทั้งขนาดเล็กและใหญ่ ในการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน ไวร์เมช (Wire Mesh) เป็นวัสดุที่ขาดไม่ได้
โดยเฉพาะในงานเทพื้นคอนกรีตและโครงสร้างที่ต้องการความแข็งแรง ทนทาน
แต่คุณรู้หรือไม่ว่าไวร์เมชมีหน้าที่มากกว่าการเสริมแรงให้คอนกรีต?
มาดูกันว่าไวร์เมชมีบทบาทสำคัญอย่างไรในงานก่อสร้าง หน้าที่ของไวร์เมชในงานก่อสร้าง 1. ช่วยให้คอนกรีตเกาะตัวกันได้ดีขึ้น ตะแกรงไวร์เมชช่วยเสริมแรงให้กับคอนกรีต ลดโอกาสที่พื้นหรือผนังคอนกรีตจะแตกหรือแตกร้าวง่าย
ซึ่งช่วยยืดอายุการใช้งานของโครงสร้างและทำให้พื้นอาคารมีความแข็งแรงมากขึ้น 2. เพิ่มความหนาแน่นและรับแรงกระแทกได้ดี ไวร์เมชทำให้คอนกรีตมีความแน่นขึ้น สามารถรับแรงกดและแรงกระแทกได้ดี
ลดปัญหาการแตกร้าวของพื้นคอนกรีตเมื่อเจอแรงกระแทกหรือแรงสั่นสะเทือนจากการใช้งาน   3. ช่วยให้คอนกรีตกระจายตัวอย่างสม่ำเสมอ เมื่อใช้ตะแกรงไวร์เมชร่วมกับคอนกรีต จะช่วยให้เนื้อคอนกรีตกระจายตัวได้ดีทั่วพื้นผิว
ทำให้พื้นมีความเรียบเสมอ สวยงาม และช่วยลดการเกิดโพรงอากาศในคอนกรีต 4. ลดระยะเวลาทำงานก่อสร้าง ไวร์เมชถูกผลิตสำเร็จรูปจากโรงงาน สามารถนำไปติดตั้งได้ทันที ไม่ต้องเสียเวลาผูกเหล็กเส้นทีละเส้น
จึงช่วยให้กระบวนการก่อสร้างเร็วขึ้น ลดค่าแรง และทำให้งานเสร็จไวขึ้น เลือกไวร์เมชคุณภาพ ต้องมาตรฐาน มอก. เท่านั้น! หากคุณต้องการไวร์เมชที่แข็งแรง ทนทาน และได้มาตรฐาน ต้องเลือกไวร์เมชที่ผ่านมาตรฐาน มอก.
ซึ่งมีคุณสมบัติที่รับรองว่าปลอดภัยและมีคุณภาพสูง เหมาะสำหรับทุกโครงการก่อสร้าง สรุป ทำไมไวร์เมชถึงจำเป็นในงานก่อสร้าง? ✔ เพิ่มความแข็งแรงให้คอนกรีต ลดการแตกร้าว
✔ รองรับแรงกระแทก ทำให้พื้นแน่น แข็งแรง
✔ ทำให้พื้นเรียบสวย ลดปัญหาคอนกรีตไม่สม่ำเสมอ
✔ ช่วยให้การก่อสร้างเสร็จเร็ว ประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่าย ต้องการไวร์เมชคุณภาพสูง ติดต่อ WMI Group ได้เลย! WMI Group เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายไวร์เมชมาตรฐาน มอก.
พร้อมบริการจัดส่งทั่วประเทศ | รับประกันคุณภาพเหล็กทุกเส้น         🌐 ดูรายละเอียดสินค้าเพิ่มเติมได้ที่: WMI Group ⭐ WMI ตะแกรงเหล็ก
เป็นตะแกรงเหล็กเสริมแรงคอนกรีต ที่ผลิตจากลวดเหล็กรีดเย็นคุณภาพสูง (COLD DRAWN STEEL)
ใช้แทนการผูกเหล็กธรรมดา มีคุณสมบัติของเหล็กดังนี้
• แรงดึงประลัย (TENSILE STRENGTH) 6,230 Kg / cm²
• กำลังคลาก (YIELD STRENGTH) 5,500 Kg / cm² ⭐ มาตรฐาน มอก 737-2549 WMI ตะแกรงเหล็ก ผลิตจากลวดเหล็กรีดเย็นคุณภาพสูง
นำมาเชื่อมเป็นตะแกรงด้วยระบบความต้านทานไฟฟ้า ( Electrical Resistance Welding)
โดยเครื่องจักรอัตรโนมัติที่มีความละเอียดสูง มีการควบคุมคุณภาพในระหว่างกระบวนการผลิต ทำให้คุณภาพของตะแกรงเหล็กเป็นไปตามข้อกำหนดของมาตรฐานอุตสาหกรรม มอก. 737-2531   ⭐ เหล็กเต็ม 100% ทุกเส้น ด้วยความซื่อสัตย์ต่อลูกค้า และความตระหนักดีถึงคุณภาพของเหล็กที่ส่งผลต่อความแข็งแรงของงานก่อสร้าง
ในทุกขั้นตอนการผลิตมีการตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอ
ทำให้คุณภาพ WMI ตะแกรงเหล็กที่ส่งมอบให้ลูกค้า เต็มขนาด100% ทุกเส้น
สามารถตรวจสอบขนาด หรือชั่งน้ำหนักได้เที่ยงตรงตามมาตรฐาน  
20 มีนาคม 2025

ไวร์เมชกระดก แก้ไขยังไงดี?

ไวร์เมชกระดก แก้ไขยังไงดี? ไวร์เมชกระดก เป็นปัญหาที่พบบ่อยในการใช้ตะแกรงไวร์เมชแบบม้วน (Wire Mesh Roll)
เพราะเมื่อกางออกอาจโก่งตัวหรือไม่เรียบ ส่งผลต่อการเทคอนกรีต
หากไม่แก้ไขอาจทำให้โครงสร้างไม่แข็งแรง วันนี้เราจะมาดูวิธีแก้ไขปัญหาไวร์เมชกระดกกัน!
• ปัญหาไวร์เมชกระดกคืออะไร และเกิดขึ้นได้อย่างไร?
• วิธีแก้ไขไวร์เมชกระดก ปรับตะแกรงไวร์เมชให้เรียบก่อนติดตั้ง
• ผลลัพธ์หลังจากแก้ไขไวร์เมชกระดก
• คำแนะนำเพิ่มเติมในการติดตั้งไวร์เมช
• สรุปและข้อเสนอแนะ ปัญหาไวร์เมชกระดกคืออะไร และเกิดขึ้นได้อย่างไร? ไวร์เมชกระดก เป็นปัญหาที่เกิดจากตะแกรงไวร์เมชแบบม้วน ที่ถูกเก็บไว้ในลักษณะโค้ง
เมื่อคลี่ออกอาจไม่แนบสนิทกับพื้น ส่งผลให้โครงสร้างคอนกรีตไม่แข็งแรง
ดังนั้นการแก้ไขให้ตะแกรงเรียบก่อนติดตั้งจึงเป็นสิ่งสำคัญ ทำไมไวร์เมชกระดก? สาเหตุและผลกระทบที่ต้องรู้ สาเหตุของปัญหาไวร์เมชกระดก • ถูกม้วนเก็บเป็นเวลานาน ทำให้เกิดแรงดึงโค้ง • กางออกผิดวิธี ทำให้ตะแกรงไวร์เมชไม่คืนตัว • การตัดแต่งไม่ถูกต้อง ทำให้ตะแกรงโก่งตัว ไวร์เมชกระดกส่งผลเสียต่อโครงสร้างอย่างไร • โครงสร้างคอนกรีตไม่แข็งแรง • เทคอนกรีตแล้วเกิดช่องว่างใต้ตะแกรงไวร์เมช • อาจทำให้เกิดรอยแตกร้าวในระยะยาว ทำไมต้องแก้ไขไวร์เมชให้เรียบก่อนติดตั้ง? ✔ ป้องกันโครงสร้างคอนกรีตอ่อนแอจากช่องว่างใต้ไวร์เมช
✔ ลดความเสี่ยงของรอยแตกร้าวในพื้นคอนกรีต
✔ ช่วยให้ติดตั้งไวร์เมชได้ง่ายขึ้น ประหยัดแรงงานและเวลา วิธีแก้ไขไวร์เมชกระดก ปรับตะแกรงไวร์เมชให้เรียบก่อนติดตั้ง 1. คลี่ไวร์เมชออกจากม้วน (ป้องกันไวร์เมชกระดกโดยการกางตะแกรงให้ถูกวิธี) • ใช้เครื่องมือง้างหรือคลายเหล็กที่ผูกม้วนไวร์เมชออก • ค่อยๆ ดึงตะแกรงให้คลี่ตัวออกเป็นแผ่น   2. กางไวร์เมชออกโดยให้ด้านโค้งอยู่ด้านล่าง (แบบคว่ำ) • การคว่ำด้านโค้งลงจะช่วยให้ไวร์เมชคืนรูปเร็วขึ้น • วางไวร์เมชบนพื้นเรียบเพื่อช่วยลดความโค้ง   3. ตัด ไวร์เมช ตามขนาดที่ต้องการ • ใช้เครื่องมือตัด ไวร์เมช เช่น กรรไกรตัดเหล็ก หรือ ลูกหมู • วัดขนาด ไวร์เมช ให้พอดีกับพื้นที่ติดตั้ง   4. ปรับระดับพื้นผิวของตะแกรงไวร์เมช • ใช้เสียมหรือจอบ กดลงบริเวณ ไวร์เมช ที่ยังโค้งงอ
(กดให้แนบสนิทกับพื้นเพื่อลดการเด้งตัว) • ย้าย ไวร์เมช ไปบริเวณที่ต้องการติดตั้ง
(ยกไวร์เมชโดยการดึงให้ตึง และอยู่ในระดับสูงเหนือพื้น)   5. ล็อคตะแกรง ไวร์เมช ไม่ให้งอหรือเด้ง 5.1) ใช้เหล็กดัดให้เป็นรูปทรงเกือกม้า   5.2) คล้องเหล็กเกือกม้าไปที่ตะแกรง ไวร์เมช ในจุดที่ยังมีการโก่งตัว   5.3) ใช้ค้อนตอกเหล็กเกือกม้าให้แน่น เพื่อยึด ไวร์เมช ให้อยู่ในตำแหน่งที่มั่นคง ผลลัพธ์หลังจากแก้ไขไวร์เมชกระดก ✅ ไวร์เมชเรียบและแนบสนิทกับพื้น ช่วยให้เทคอนกรีตได้ง่ายขึ้น ✅ ลดความเสี่ยงในการเกิดรอยแตกร้าว เนื่องจากโครงสร้างมีความแข็งแรงและกระจายน้ำหนักได้ดี ✅ เพิ่มความสะดวกในการติดตั้ง ช่วยให้การทำงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ 💙 หากคุณกำลังมองหาตะแกรงไวร์เมชคุณภาพสูง ที่ได้มาตรฐาน มอก. เลือก WMI Group         คำแนะนำเพิ่มเติมในการติดตั้งไวร์เมช • ควรเลือก ไวร์เมชมาตรฐาน มอก. เพื่อความแข็งแรงของโครงสร้าง • หลีกเลี่ยงการตัดไวร์เมชผิดขนาด ควรวัดพื้นที่ให้พอดีก่อน • หากต้องใช้ไวร์เมชหลายแผ่น ให้ซ้อนทับกันอย่างน้อย 20-30 ซม. ข้อผิดพลาดที่พบบ่อยในการติดตั้งไวร์เมช ❌ วางไวร์เมชโดยไม่ปรับให้เรียบก่อน
❌ ใช้ไวร์เมชผิดขนาด ทำให้การเสริมแรงไม่เต็มประสิทธิภาพ
❌ ลืมล็อคไวร์เมช ทำให้เด้งตัวระหว่างเทคอนกรีต สรุป การแก้ไขไวร์เมชกระดกช่วยให้งานก่อสร้างแข็งแรงขึ้น ✅ การแก้ไขไวร์เมชแบบม้วนไม่ให้กระดก เป็นขั้นตอนสำคัญก่อนการเทคอนกรีต
เพราะช่วยให้โครงสร้างแข็งแรง ลดปัญหาการแตกร้าว และทำให้การติดตั้งสะดวกขึ้น ✅ การเลือกใช้ตะแกรงไวร์เมชแบบแผงแทนแบบม้วนสามารถช่วยลดปัญหาไวร์เมชกระดกได้
เนื่องจากแบบแผงมีลักษณะเรียบอยู่แล้ว และไม่ต้องเสียเวลาปรับให้แนบสนิทกับพื้น
ซึ่งช่วยประหยัดเวลาในการติดตั้งและลดต้นทุนแรงงาน”   ไวร์เมชเรียบแล้วดียังไง ✅ เทคอนกรีตได้ง่ายขึ้น ✅ ลดปัญหารอยแตกร้าวของโครงสร้าง ✅ ติดตั้งไวร์เมชได้ง่ายและรวดเร็ว หากต้องการตะแกรงไวร์เมชคุณภาพมาตรฐาน เลือก WMI Wire Mesh เพื่อความมั่นใจในทุกงานก่อสร้าง • โรงงานผลิตตะแกรงไวร์เมชมาตรฐาน มอก. 737-2549 • มีไวร์เมชให้เลือกทั้งแบบแผงและแบบม้วน พร้อมบริการจัดส่งทั่วประเทศ 📞 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือสั่งซื้อได้ที่   🌐 ดูรายละเอียดสินค้าเพิ่มเติมได้ที่: WMI Group 💙 ขอขอบคุณข้อมูลจากเว็บไซต์ Youtube ช่อง แคะแซะแงะ ขนาดตะแกรงไวร์เมชแบบม้วน ของ WMI Group • ขนาดสั่งผลิต ความกว้าง 2-4 เมตร ความยาว 30-50 เมตร
• ขนาดมาตรฐาน 2×50 เมตร ⭐ WMI ตะแกรงเหล็ก
เป็นตะแกรงเหล็กเสริมแรงคอนกรีต ที่ผลิตจากลวดเหล็กรีดเย็นคุณภาพสูง (COLD DRAWN STEEL)
ใช้แทนการผูกเหล็กธรรมดา มีคุณสมบัติของเหล็กดังนี้
• แรงดึงประลัย (TENSILE STRENGTH) 6,230 Kg / cm²
• กำลังคลาก (YIELD STRENGTH) 5,500 Kg / cm² ⭐ มาตรฐาน มอก 737-2549 WMI ตะแกรงเหล็ก ผลิตจากลวดเหล็กรีดเย็นคุณภาพสูง
นำมาเชื่อมเป็นตะแกรงด้วยระบบความต้านทานไฟฟ้า ( Electrical Resistance Welding)
โดยเครื่องจักรอัตรโนมัติที่มีความละเอียดสูง มีการควบคุมคุณภาพในระหว่างกระบวนการผลิต ทำให้คุณภาพของตะแกรงเหล็กเป็นไปตามข้อกำหนดของมาตรฐานอุตสาหกรรม มอก. 737-2531   ⭐ เหล็กเต็ม 100% ทุกเส้น ด้วยความซื่อสัตย์ต่อลูกค้า และความตระหนักดีถึงคุณภาพของเหล็กที่ส่งผลต่อความแข็งแรงของงานก่อสร้าง
ในทุกขั้นตอนการผลิตมีการตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอ
ทำให้คุณภาพ WMI ตะแกรงเหล็กที่ส่งมอบให้ลูกค้า เต็มขนาด100% ทุกเส้น
สามารถตรวจสอบขนาด หรือชั่งน้ำหนักได้เที่ยงตรงตามมาตรฐาน  
28 กุมภาพันธ์ 2025

แนะนำการเลือกตะแกรงเหล็กเส้น

ตะแกรงเหล็กเส้น: วิธีการเลือกให้เหมาะกับงานก่อสร้าง ตะแกรงไวร์เมช เป็นวัสดุก่อสร้างที่ช่วยเสริมแรงให้โครงสร้างแข็งแรง ทนทาน และลดต้นทุนการก่อสร้างได้
หากเลือก ตะแกรงเหล็กเส้น ให้เหมาะสม จะช่วยให้งานก่อสร้างมีประสิทธิภาพและเสร็จเร็วขึ้น
โดยตะแกรงเหล็กเส้นแต่ละขนาดมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน ดังนั้นการเลือกให้เหมาะสมจึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม ตะแกรงเหล็กเส้น (Wire Mesh) คืออะไร?
วิธีเลือกขนาดตะแกรงเหล็กเส้นให้เหมาะสม
สรุปและข้อเสนอแนะ ตะแกรงเหล็กเส้น (Wire Mesh) คืออะไร? เป็นเหล็กเสริมแรงที่ผลิตจากเหล็กรีดเย็น นำมาถักหรือเชื่อมเป็นแผ่น
ใช้สำหรับเสริมแรงในงานก่อสร้าง เช่น งานเทพื้นถนน พื้นโรงงาน พื้นบ้าน หรือโครงสร้างขนาดใหญ่ วิธีเลือกขนาดไวร์เมชให้เหมาะสม ขนาดของตะแกรงเหล็ก หรือไวร์เมชมีหน่วยวัดเป็นมิลลิเมตร (มม.) โดยขนาดที่หนาขึ้นจะสามารถรับน้ำหนักได้มากขึ้น ตะแกรงไวร์เมชขนาด 2.8 – 4 มิลลิเมตร เหมาะสำหรับ • งานพื้นบ้าน, พื้นห้องน้ำ, โรงรถ
• ลานจอดรถ, พื้นรอบเสาเข็ม
• พื้นสนามเด็กเล่น, พื้นโรงงาน, พื้นระเบียง
• พื้นทางเดินในสวนสาธารณะ ตะแกรงไวร์เมชขนาด 4 – 6 มิลลิเมตร เหมาะสำหรับ • งานพื้นบ้าน, พื้นห้องน้ำ, โรงรถ
• พื้นโกดังสินค้า, ห้างสรรพสินค้า, ศูนย์การค้า
• พื้นที่ทำงานก่อสร้าง, พื้นที่จอดรถบรรทุก
• พื้นชั้นใต้ดิน, พื้นถนนทั่วไป
• พื้นสนามกีฬา, พื้นที่เลี้ยงสัตว์ ตะแกรงไวร์เมชขนาด 9 – 12 มิลลิเมตร เหมาะสำหรับ • งานพื้นบ้าน, พื้นห้องน้ำ, โรงรถ
• งานโครงสร้างขนาดใหญ่ เช่น สนามบิน, ท่าเรือ
• โรงงานอุตสาหกรรมหนัก, อาคารจอดรถหลายชั้น
• โกดังเก็บสินค้าหนัก
• สถานีรถไฟ
• งานโครงสร้างพิเศษ เช่น เขื่อน, อุโมงค์, ถนนรถบรรทุก   สรุปและข้อเสนอแนะ ตะแกรงไวร์เมชเป็นวัสดุสำคัญที่ช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับโครงสร้าง
เลือกขนาดให้เหมาะสมเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด อย่าลืมเลือกซื้อจากโรงงานที่ได้มาตรฐาน มอก. เพื่อความปลอดภัยและความทนทานสูงสุด เลือกซื้อตะแกรงไวร์เมชคุณภาพ มาตรฐาน มอก. หากต้องการ ไวร์เมช คุณภาพดี ที่ผ่านมาตรฐาน มอก. และจัดส่งถึงไซต์งานของคุณ
คลิกที่นี่ เพื่อสั่งซื้อ เรามีบริการจัดส่งทั่วประเทศ         ข้อดีของตะแกรงเหล็กไวร์เมช (Wire Mesh) 1. ประหยัดต้นทุน ลดของเสีย ตะแกรงเหล็กไวร์เมช (Wire Mesh) มีกำลังคลาก (Yield Strength) สูงกว่าเหล็กเส้นธรรมดา ถึงทำให้ใช้เหล็กน้อยลงโดยไม่ลดคุณภาพของโครงสร้าง นอกจากนี้ ไวร์เมชสามารถผลิตตามขนาดที่ต้องการ ลดเศษเหล็กเหลือทิ้ง และช่วยลดต้นทุนวัสดุอย่างมีประสิทธิภาพ 2. ติดตั้งไว งานเสร็จเร็วขึ้น ตะแกรงเหล็กไวร์เมชถูกเชื่อมเป็นตารางสำเร็จรูป ช่วยลดเวลาในการผูกเหล็กและติดตั้ง สามารถนำไปใช้งานได้ทันที โดยจากการประเมินโครงการก่อสร้าง พบว่าการใช้ไวร์เมชช่วยลดเวลาในการทำงานได้อย่างมาก ทำให้โครงการเสร็จเร็วขึ้น และประหยัดค่าแรง 3. ใช้งานได้หลากหลาย แข็งแรงทนทาน ตะแกรงเหล็กไวร์เมชสามารถใช้ได้กับงานคอนกรีตเสริมเหล็กทุกประเภท เช่น พื้นถนน พื้นอาคาร กำแพงกันดิน และโครงสร้างอื่นๆ นอกจากนี้ ยังสามารถดัดขึ้นรูปเพื่อใช้ในงานเฉพาะ เช่น บันได ท่อคอนกรีต หรือพื้นสำเร็จรูป ช่วยเพิ่มความสะดวกในการก่อสร้างและรองรับการใช้งานที่หลากหลาย ประเภทของตะแกรงเหล็กเส้น 1. เหล็กเส้นกลม (Round Bar) เหล็กเส้นกลมเป็นเหล็กที่มีลักษณะผิวเรียบ หน้าตัดเป็นวงกลม
🔹นิยมใช้ในงานโครงสร้างขนาดเล็กและขนาดกลาง เช่น
• ปลอกเสา ปลอกคาน – ช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้โครงสร้าง
• งานโครงสร้างถนน – ใช้เสริมแรงและป้องกันการแตกร้าวของคอนกรีต
• งานก่อสร้างทั่วไป – เหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องการดัดงอเพื่อช่วยถ่ายแรงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
จุดเด่นของเหล็กเส้นกลมคือ ความง่ายในการดัดและขึ้นรูป แต่มีแรงยึดเกาะกับคอนกรีตน้อยกว่าเหล็กเส้นข้ออ้อย   2. เหล็กเส้นข้ออ้อย (Deformed Bar) เหล็กเส้นข้ออ้อย เป็นเหล็กเสริมคอนกรีตที่มีลักษณะพิเศษ มีบั้งหรือลายปล้องตลอดทั้งเส้น เพื่อเพิ่มแรงยึดเกาะกับคอนกรีตมากกว่าเหล็กเส้นกลม
🔹 การใช้งานที่ต้องการความแข็งแรงสูง เช่น
• โครงสร้างอาคารสูง – รองรับน้ำหนักและแรงดึงได้ดี
• ถนนคอนกรีตและสะพาน – เพิ่มความแข็งแรงให้พื้นถนน
• เขื่อนและสนามบิน – ป้องกันการแตกร้าวและกระจายแรงได้ดี
• บ่อและสระน้ำ – ช่วยป้องกันการรั่วซึมของคอนกรีต
จุดเด่นของเหล็กเส้นกลมคือ ความง่ายในการดัดและขึ้นรูป แต่มีแรงยึดเกาะกับคอนกรีตน้อยกว่าเหล็กเส้นข้ออ้อย 🌐 ดูรายละเอียดสินค้าเพิ่มเติมได้ที่: WMI Group
27 กุมภาพันธ์ 2025

ตะแกรงเหล็กเส้น คืออะไร

ตะแกรงเหล็กเส้น คืออะไร? เลือกใช้อย่างไรให้เหมาะกับงานปูพื้นคอนกรีต เมื่อต้องการเสริมความแข็งแรงให้กับโครงสร้างคอนกรีต ” ตะแกรงเหล็กเส้น ” หรือ “ตะแกรงไวร์เมชwmi” เป็นวัสดุสำคัญที่ช่วยเพิ่มความทนทาน ลดการแตกร้าว และรองรับน้ำหนักได้อย่างดี ในบทความนี้เราจะพาคุณไปรู้จักกับตะแกรงเหล็กเส้น และวิธีเลือกใช้งานให้เหมาะสมกับงานปูพื้นคอนกรีต ตะแกรงเหล็กเส้น คืออะไร? ตะแกรงเหล็กเส้น (Wire Mesh Reinforcement) คือโครงสร้างเหล็กที่เกิดจากการนำเหล็กเส้นกลมหรือเหล็กข้ออ้อยมาจัดเรียงเป็นตาข่าย แล้วเชื่อมติดกันเป็นแผ่นหรือม้วน นิยมใช้เป็นโครงเสริมแรงสำหรับงานก่อสร้างต่างๆ โดยเฉพาะการปูพื้นคอนกรีต เพื่อป้องกันการแตกร้าวและเพิ่มความแข็งแรงให้กับโครงสร้าง ข้อดีของการใช้ ตะแกรงเหล็กเส้น สำหรับปูพื้นคอนกรีต ช่วยเสริมความแข็งแรง – ทำให้คอนกรีตทนต่อแรงดึงและแรงอัดได้ดีขึ้น ลดการแตกร้าวของคอนกรีต – ลดปัญหาการแตกร้าวจากการหดตัวหรือการขยายตัวของคอนกรีต ติดตั้งง่ายและรวดเร็ว – ตะแกรงไวร์เมชมาเป็นแผ่นหรือม้วน สามารถนำไปใช้ได้ทันที ไม่ต้องเสียเวลาผูกเหล็กหน้างาน ช่วยกระจายแรงอย่างสม่ำเสมอ – ช่วยให้พื้นคอนกรีตรับน้ำหนักได้ทั่วถึง ลดความเสี่ยงของการทรุดตัว การเลือกตะแกรงเหล็กเส้นให้เหมาะกับงานปูพื้นคอนกรีต เลือกขนาดและความหนาให้เหมาะสม – ขึ้นอยู่กับประเภทของงาน เช่น งานพื้นบ้าน พื้นถนน หรือโรงงานที่ต้องรับน้ำหนักมาก เลือกวัสดุที่ได้มาตรฐาน – ควรเลือกตะแกรงเหล็กเส้นที่ผ่านมาตรฐานอุตสาหกรรม (มอก.) เพื่อความปลอดภัย เลือกแบบม้วนหรือแบบแผ่น – แบบม้วนเหมาะกับงานที่ต้องการความยืดหยุ่นสูง ส่วนแบบแผ่นเหมาะกับพื้นที่กว้างและต้องการความแข็งแรงเป็นพิเศษ สรุป ตะแกรงเหล็กเส้น ตะแกรงเหล็กเส้น หรือ ตะแกรงไวร์เมชเป็นวัสดุที่ขาดไม่ได้สำหรับงานปูพื้นคอนกรีต โดยช่วยเสริมความแข็งแรง ลดการแตกร้าว และเพิ่มอายุการใช้งานของพื้นคอนกรีต การเลือกใช้ตะแกรงเหล็กเส้นควรพิจารณาความหนา ขนาด และมาตรฐานของวัสดุ เพื่อให้เหมาะสมกับประเภทของงาน ไม่ว่าจะเป็นงานบ้าน ถนน หรือโรงงานอุตสาหกรรม การติดตั้งที่ถูกต้องและเลือกใช้วัสดุที่มีคุณภาพจะช่วยให้พื้นคอนกรีตมีประสิทธิภาพและรองรับน้ำหนักได้อย่างดี หากคุณกำลังมองหาตะแกรงเหล็กเส้น ควรเลือกซื้อจากแหล่งที่เชื่อถือได้เพื่อให้มั่นใจในคุณภาพและความปลอดภัยของโครงสร้างของคุณ หากคุณกำลังมองหาตะแกรงเหล็กเส้นสำหรับงานปูพื้นคอนกรีต อย่าลืมเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีมาตรฐานและเหมาะสมกับประเภทงานของคุณ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด  
17 กุมภาพันธ์ 2025
ไวร์เมช wire mesh, ตะแกรงไวร์เมช, เหล็กไวร์เมช

ขอขอบคุณโครงการศุภาลัย พาร์ควิลล์ รังสิตคลอง 4

ขอขอบคุณโครงการศุภาลัย พาร์ควิลล์ รังสิต คลอง 4
ที่ให้ความไว้วางใจเลือกใช้ ตะแกรงไวร์เมช WMI ในงานก่อสร้าง

เพื่อเสริมความแข็งแรงให้โครงสร้างอาคาร ด้วยเหล็กไวร์เมช คุณภาพมาตรฐาน มอก.
ไวร์เมช WMI ผลิตจากลวดเหล็กรีดเย็นที่ผ่านกระบวนการเชื่อมด้วยไฟฟ้าอัตโนมัติ
ช่วยเพิ่มความแข็งแรง ทนทาน และประหยัดเวลาการติดตั้ง
เหมาะสำหรับงานพื้น ถนน และโครงสร้างอาคารทุกประเภท
มั่นใจในมาตรฐาน เลือกใช้ wire mesh คุณภาพ ต้อง WMI Group
17 กุมภาพันธ์ 2025

สร้างบ้านในฝันให้แม่ เริ่มต้นจากรากฐานที่มั่นคง

บ้านที่อบอุ่นเริ่มต้นจากรากฐานที่แข็งแรง เหมือนที่แม่สร้างรากฐานชีวิตที่ดีให้เราเสมอมา
วางรากฐานให้มั่นคงด้วย ตะแกรงไวร์เมช WMI
ตะแกรงไวร์เมช (Wire Mesh) เป็นวัสดุก่อสร้างสำคัญที่ช่วยเสริมความแข็งแรงให้กับงาน เทพื้นถนนคอนกรีต เทพื้นบ้าน เทพื้นโรงรถ และงานฐานราก การเลือกใช้ ตะแกรงเหล็กไวร์เมชคุณภาพสูง จะช่วยให้โครงสร้างบ้านแข็งแรง ทนทาน ปลอดภัย และอยู่ได้อย่างยาวนาน

19 ธันวาคม 2024

ไวร์เมช WMI ตัวเลือกที่มั่นใจสำหรับโครงการก่อสร้างคุณภาพ Centro Bangna

18 ธันวาคม 2024
ไวร์เมช WMI คือวัสดุก่อสร้างที่ได้รับความไว้วางใจจากโครงการก่อสร้างชั้นนำทั่วประเทศ ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่นในด้านความแข็งแรงและมาตรฐานการผลิตระดับสูง ไวร์เมช WMI ช่วยเพิ่มความมั่นใจในโครงสร้างที่ทนทานและมีประสิทธิภาพ

ไวร์เมช WMI หัวใจสำคัญของโครงสร้างที่แข็งแรงและทนทาน

18 ธันวาคม 2024
ลานจอดรถคุณภาพที่วัดเล่งเน่ยยี่ 2

ไวร์เมช WMI เสริมความมั่นคงในงานก่อสร้าง × ลานจอดรถคุณภาพที่วัดเล่งเน่ยยี่ 2

13 ธันวาคม 2024

การเลือกตะแกรงไวร์เมช จาก WMI ผู้เชียวชาญด้านไวร์เมช

29 พฤศจิกายน 2024

ไวร์เมชมาตรฐาน มอก.

ไวร์เมช WMI ได้มาตรฐาน มอก. ตอบโจทย์ทุกงานก่อสร้างอย่างมั่นใจ
27 พฤศจิกายน 2024

ไขความลับ! ขนาดตาห่างไวร์เมช ส่งผลต่อความแข็งแรงโครงสร้างอย่างไร?

23 ธันวาคม 2023

เหล็กลวดไวร์รอท คืออะไร?

25 มกราคม 2023
เหล็กเส้น (rebar) และบิลเล็ต (billets) ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพิ่มขึ้นจากข้อเสนอขายและการเสนอราคาซื้อที่สูงขึ้น

ข่าวสารปี66 เหล็กเส้น (rebar) และบิลเล็ต (billets)

เหล็กเส้น (rebar) และบิลเล็ต (billets) ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพิ่มขึ้นจากข้อเสนอขายและการเสนอราคาซื้อที่สูงขึ้น Update : 10 มกราคม 2566
ในวันที่ 9 มกราคม ราคาเหล็กเส้น (rebar) และบิลเล็ต (billet) ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ปรับตัวสูงขึ้นตามข้อเสนอขายและระดับการเสนอราคาซื้อที่สูงขึ้น โดยผู้เข้าร่วมตลาดอ้างว่าต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้นและค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลงเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ราคาสินค้าส่งออกสูงขึ้น เหล็กเส้นในตลาด seaborne โรงงานแห่งหนึ่งของจีน ได้เพิ่มข้อเสนอขายในการส่งออกเหล็กเส้นเป็น $620/ตัน FOB เพิ่มขึ้นจาก $605/ตัน FOB ในช่วงสิ้นสุดสัปดาห์วันที่ 6 ม.ค. เนื่องจากการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับเงินหยวนของจีน นอกจากนี้ ยังมีข้อเสนอขายเหล็กเส้นของมาเลเซียที่ราคา $630/ตัน CFR สิงคโปร์ “ข้อเสนอขายอยู่ที่ $630/ตัน CFR สิงคโปร์และสูงกว่านั้น” ผู้ผลิตเหล็กเส้นรายหนึ่งในสิงคโปร์กล่าว โดยอ้างถึงระดับที่ซื้อขายได้ของเขาอยู่ที่ราคา $520-$525/ตัน CFR สิงคโปร์ สำหรับการนำเข้าเหล็กเส้น ในฮ่องกง ตลาดถูกมองว่าเป็นขาขึ้น แต่แหล่งข่าวจากผู้สต็อคสินค้าระบุว่า “ยังมีผู้ซื้อไม่มากนักที่สามารถยอมรับราคาใหม่ได้ สถานการณ์ของตลาดมีหลายอารมณ์ผสมปนเปกัน” เมื่อวันที่ 9 ม.ค. Platts ประเมินราคาเหล็กเส้น BS4449 เกรด 500 ขนาด 16-32 มม. ที่ราคา $621/ตัน CFR เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ราคาเพิ่มขึ้น $7/ตัน จากการปิดตลาดครั้งก่อน เหล็กเส้นเกรด BS500B สำหรับส่งออกของจีน ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 16-20 มม. ได้รับการประเมินที่ราคา $611 /ตัน FOB ของจีน ราคาไม่เปลี่ยนแปลงเทียบจากในช่วงเวลาเดียวกัน ราคาสปอตภายในประเทศที่ปักกิ่ง ของเหล็กเส้น HRB400 ขนาด 18-25 มม. ได้รับการประเมินที่ราคา 4,113 หยวน/ตัน ex-stock ตามน้ำหนักจริง (actual weight) รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 13% ราคาเพิ่มขึ้น 10 หยวน/ตัน จากในวันก่อน อย่างไรก็ตาม ราคาบิลเล็ตมีความผันผวน โดยในตลาด seaborne เพิ่มขึ้น ในขณะที่ตลาดบิลเล็ตในประเทศที่ Tangshan มีราคาลดลง ได้ยินข้อเสนอขาย สำหรับบิลเล็ต 5SP ขนาด 130 มม. ของอินโดนีเซีย อยู่ที่ราคา $570/ตัน FOB อินโดนีเซีย ซึ่งเท่ากับ $590-$595/ตัน CFR มะนิลา ราคาเสนอซื้ออยู่ที่ $565/ตัน CFR มะนิลา สำหรับ     บิลเล็ตขนาดและเกรดเดียวกัน “การเสนอราคาซื้อจากมะนิลายังคงล้าหลัง มีราคาอยู่ที่ $565/ตัน CFR มะนิลา จะไม่สร้างแรงจูงใจให้ผู้ค้าขาย” ผู้ค้าในสิงคโปร์กล่าว มีรายงานว่าข้อตกลงซื้อขายที่ได้ข้อสรุปในวันที่ 6 มกราคม สำหรับบิลเล็ต 3SP จากเตาเหนี่ยวนำไฟฟ้า (induction furnace) ของมาเลเซีย มีราคาที่ $555/ตัน CFR มะนิลา “ราคาค่อนข้างต่ำ และค่อนไปทางฝั่งระดับราคาเสนอซื้อ” ราคาของบิลเล็ต 5SP ขนาด130 มม.  จัดส่ง CFR เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้รับการประเมินที่ราคา $567/ตัน เพิ่มขึ้น $2/ตัน จากการปิดตลาดครั้งก่อน ในขณะเดียวกัน การราคาสปอตนำเข้าบิลเล็ต 3SP ขนาด 150 มม. ของจีน เพิ่มขึ้น $1//ตัน มีราคาเป็น $495/ตัน CFR ประเทศจีน ในขณะที่การประเมินของ Platts สำหรับบิลเล็ต Q235 Tangshan ราคาลดลง 20 หยวน/ตัน มีราคาเป็น 3,850 หยวน/ตัน ในช่วงเวลาเดียวกัน ในวันที่ 9 มกราคม สัญญาซื้อขายเหล็กเส้นที่มีการซื้อขายมากที่สุดในเดือนพฤษภาคม 2023 ที่ Shanghai Futures Exchange ปิดที่ 4,093 หยวน/ตัน ลดลง 14 หยวน/ตัน ในช่วงเซสชั่นการซื้อขาย แหล่งที่มา : S&P Global Commodity Insights. #ตะแกรงเหล็กไวร์เมท #ตะแกรงเหล็ก #โรงงานผลิตไวร์เมท #ไวเมช #ไวเมท #ไวร์เมท #วายเมท #วายเมช #เทปูน #เทคอนกรีต
25 มกราคม 2023
วิบากกรรม“เหล็กแผ่นเคลือบ”

ข่าวสาร66 วิบากกรรม“เหล็กแผ่นเคลือบ”

วิบากกรรม“เหล็กแผ่นเคลือบ” 6 ปีนำเข้าพุ่ง รัฐเหลว-จีนดัมพ์ราคา Update : 15 มกราคม 2566 อุตสาหกรรมเหล็กของไทยเผชิญวิบากกรรมวนเวียนมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการแข่งขันที่มาในรูปแบบต่างๆ ของการนำเข้า ล่าสุด นายพงศ์เทพ เทพบางจาก รองประธานกลุ่มอุตสาหกรรมเหล็ก สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และนายกสมาคมผู้ผลิตเหล็กเคลือบสังกะสี ให้สัมภาษณ์พิเศษกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ถึงปัญหาที่สะสมมานานของผู้ผลิตเหล็กแผ่นเคลือบสังกะสีในประเทศไทย ที่เขามองว่าเป็นตัวอย่างที่แฝงความล้มเหลวในหลากหลายมิติ ภาพรวมเหล็กแผ่นเคลือบสังกะสี นายพงศ์เทพ กล่าวว่า ภาพรวม “เหล็กแผ่นเคลือบสังกะสี” เติบโตดีมาอย่างต่อเนื่อง แต่เป็นตัวอย่างที่แฝงความล้มเหลวในหลายมิติของอุตสาหกรรมเหล็กไทย มีเหตุผลจากการนำสินค้าชนิดนี้เข้าไปใช้ทดแทนเหล็กหรือสินค้าอื่น ๆ ในหลากหลายลักษณะการใช้งาน เช่น การนำไปใช้ทดแทนเหล็กแผ่นรีดร้อนสำหรับงานโครงสร้าง ที่ช่วยลดระยะเวลาในการทำงานลงไปได้มากเพราะไม่ต้องมาเชื่อมเหล็ก หรือทาสีรองพื้นกันสนิม การใช้ทดแทนงานหลังคาในวัสดุเดิม เช่น กระเบื้อง จนเป็นที่นิยมในปัจจุบัน และเรียกกันติดปากว่า “เมทัลชีท” รวมไปถึงการใช้ในงานเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นตู้เย็น เครื่องซักผ้า เตาไมโครเวฟ และในอุตสาหกรรมรถยนต์ สรุปได้ไม่เกินจริงว่าเหล็กชนิดนี้เติบโตมาอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันหากให้ประเมินปริมาณการบริโภคที่นับจากการผลิตในประเทศ รวมกับการนำเข้าและหักการส่งออกแล้ว การบริโภคเหล็กแผ่นเคลือบสังกะสีของไทยจะมีค่าเฉลี่ยปีละประมาณ 2 ล้านตัน แต่เมื่อหักการบริโภคในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ออก จะเหลือค่าเฉลี่ยของการบริโภคเคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 1-1.5 ล้านตัน ขึ้นอยู่กับราคานำเข้าจูงใจให้สั่งเข้ามาสต๊อกไว้หรือไม่ เพราะกำลังการผลิตเหล็กแผ่นเคลือบสังกะสีในประเทศอยู่ที่ระดับ 1 ล้านตันเช่นกัน อย่างไรก็ดีเวลานี้ผู้ผลิตในประเทศใช้กำลังผลิตเพียง 20-30 % ของกำลังผลิตที่มีทั้งหมดเท่านั้น ที่เหลือ 70-80% ของส่วนแบ่งการตลาดล้วนเป็นสินค้านำเข้า โดยเฉพาะการนำเข้าจากประเทศจีน ที่มีอิทธิพลต่อการผลิตและการกำหนดราคาในตลาดสูงมาก สังเกตได้จากตัวเลขนำเข้าจากประเทศจีนตั้งแต่ปี พ.ศ.2560 ถึง ไตรมาส 3 ของปี 2565 เป็นเครื่องยืนยันได้เป็นอย่างดี (กราฟิกประกอบ) อ่านต่อได้ที่ : ฐานเศรษฐกิจ #ตะแกรงเหล็กไวร์เมท #ตะแกรงเหล็ก #โรงงานผลิตไวร์เมท #ไวเมช #ไวเมท #ไวร์เมท #วายเมท #วายเมช #เทปูน #เทคอนกรีต
24 ธันวาคม 2022
การส่งออกเหล็กแผ่นรีดร้อน (hot-rolled coil : HRC)

ข่าวสาร65

เดือน ต.ค. ส่งออก HRC ตกต่ำตาม อุปสงค์ของสหภาพยุโรปและสหรัฐฯ Update : 09 ธันวาคม 2565 ในเดือนตุลาคม การส่งออกเหล็กแผ่นรีดร้อน (hot-rolled coil : HRC) ของตุรกีลดลง 43% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สู่ระดับต่ำสุดภายในปีนี้ ที่ 166,250 ตัน เนื่องจากการส่งออกไปยังสหภาพยุโรปและสหรัฐอเมริกาลดลงอย่างมาก ท่ามกลางความต้องการที่ต่ำ ข้อมูลล่าสุดของ Turkish Statistical Institute ที่ให้ข้อมูลกับ S&P Global Commodity Insights แม้จะลดลง 59% แต่อิตาลียังคงเป็นปลายทางการส่งออกหลักของตุรกี ที่มีปริมาณ 27,400 ตันในขณะที่การส่งออกไปยังสเปนลดลง 93% มีปริมาณ 4,400 ตัน การส่งออกไปยังกรีซเพิ่มขึ้น 17% ที่ปริมาณ 21,400 ตัน ขณะที่การส่งออกไปยังบัลแกเรียอยู่ที่ 18,500 ตัน การส่งออกไปยังประเทศในสหภาพยุโรปอื่น ๆ ยังคงอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับปีก่อน ท่ามกลางภาษีตอบโต้การทุ่มตลาดของเหล็กแผ่นรีดร้อนที่มาจากตุรกี โดยเรื่องของโควต้าเหล็กก็ยังมีอยู่ และท่ามกลาง     อุปสงค์ที่ลดลงในภูมิภาค โรงงานในตุรกีได้ส่งออกเหล็กแผ่นรีดร้อนไปยังแคนาดา 11,000 ตัน ลดลง 39% เทียบจากปีก่อน ตามข้อมูลของ TUIK มีเหล็กแผ่นรีดร้อนเพียง 1,200 ตัน ที่ถูกจัดส่งไปยังสหรัฐอเมริกาในเดือนตุลาคม จากจำนวน 51,100 ตัน ที่ถูกส่งไปเมื่อปีที่แล้ว ผู้ผลิตในตุรกีเผชิญกับแรงกดดันอย่างต่อเนื่อง จากต้นทุนพลังงานและราคาเศษเหล็กที่เพิ่มขึ้น รวมถึงความต้องการที่ต่ำ เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม เหล็กแผ่นรีดร้อนที่ตุรกีส่งออกได้รับการประเมิน อยู่ $625/ตัน FOB ลดลงประมาณ $600/ตัน เมื่อเทียบกับราคากลางเดือนมีนาคม เป็นการประเมินโดย Platts ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ S&P Global แหล่งที่มา : S&P Global Commodity Insights
24 ธันวาคม 2022
ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงตุลาคม 2022 การนำเข้าเหล็กกล้าไร้สนิมของจีน มีจำนวนทั้งสิ้น 2.7566 ล้านตัน และส่งออกทั้งสิ้น 3.7599 ล้านตัน

ข่าวสาร65

การนำเข้าและส่งออก เหล็กกล้าไร้สนิมของจีน ตั้งแต่เดือนมกราคม-เดือนตุลาคม Update : 15 ธันวาคม 2565 ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงตุลาคม 2022 การนำเข้าเหล็กกล้าไร้สนิมของจีน มีจำนวนทั้งสิ้น 2.7566 ล้านตัน และส่งออกทั้งสิ้น 3.7599 ล้านตัน ในเดือนตุลาคม 2022 การนำเข้าเหล็กกล้าไร้สนิมทั้งหมดของจีนอยู่ที่ 310,900 ตัน เพิ่มขึ้น 38,700 ตัน หรือ 14.23%  เมื่อเทียบกับเดือนก่อน และเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนเพิ่มขึ้น 48,600 ตัน มีอัตราการเติบโต 18.53% ตั้งแต่เดือนมกราคม-ตุลาคม 2022 การนำเข้าเหล็กกล้าไร้สนิมทั้งหมดของจีนอยู่ที่ 2.7566 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 337,400 ตัน โดยมีอัตราการเติบโตที่ 13.95% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อน ในเดือนตุลาคม 2022 การนำเข้าเหล็กกล้าไร้สนิมทั้งหมดของจีนจากอินโดนีเซียอยู่ที่ 272,000 ตัน เพิ่มขึ้น 37,200 ตัน โดยเพิ่มขึ้น 15.84% เทียบจากเดือนก่อน และเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เพิ่มขึ้น 57,600 ตัน ขยายตัว 26.87% ตั้งแต่เดือนมกราคม-ตุลาคม 2022 จีนนำเข้าเหล็กกล้าไร้สนิมจากอินโดนีเซียทั้งหมด 2.3384 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 501,700 ตัน หรือ 27.32% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ในเดือนตุลาคม 2022 การส่งออกเหล็กกล้าไร้สนิมของจีนจะอยู่ที่ 295,800 ตัน เพิ่มขึ้น 14,900 ตันหรือ 5.31% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของเดือนก่อน  และลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 22,200 ตัน หรือ 6.99% ตั้งแต่เดือนมกราคม-ตุลาคม 2022 ปริมาณการส่งออกเหล็กกล้าไร้สนิมทั้งหมดของจีน สูงถึง 3.7599 ล้านตัน โดยเพิ่มขึ้น 136,100 ตันหรือ 3.75% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ในเดือนตุลาคม 2022 การนำเข้าเหล็กกล้าไร้สนิมสุทธิของจีนอยู่ที่ 15,100 ตัน ตั้งแต่เดือนมกราคม-ตุลาคม 2022 ยอดส่งออกเหล็กกล้าไร้สนิมสุทธิของจีนอยู่ที่ 1.0033 ล้านตัน ลดลง 20.14 ล้านตัน หรือ 16.72% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
แหล่งที่มา : Steelhome, CISA.https://iiu.isit.or.th/th/news/Iron%20Industry%20News/Content-5932.aspx  
24 ธันวาคม 2022
อัตราการใช้กำลังการผลิตของโรงถลุงเหล็กดิบของสหรัฐฯ ลดลงในช่วงสิ้นสุดสัปดาห์ในวันที่ 26 พ.ย. โดยสถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งอเมริกา (American Iron and Steel Institute : AISI)

ข่าวสาร65

อัตราการใช้กำลังการผลิตเหล็กของสหรัฐลดลงต่ำกว่า 73.0%: AISI Update : 29 พฤศจิกายน 2565        อัตราการใช้กำลังการผลิตของโรงถลุงเหล็กดิบของสหรัฐฯ ลดลงในช่วงสิ้นสุดสัปดาห์ในวันที่ 26 พ.ย. โดยสถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งอเมริกา (American Iron and Steel Institute : AISI) รายงานเมื่อวันที่ 28 พ.ย. การผลิตเหล็กดิบ (Raw steel) อยู่ที่ 72.8% ลดลงจาก 73.0% ในสัปดาห์ก่อน การผลิตในระหว่างสัปดาห์มีจำนวนทั้งสิ้น 1.625 ล้านตัน ลดลง 0.2% จากช่วงสิ้นสุดสัปดาห์ในวันที่ 19 พ.ย. ซึ่งมีการผลิตอยู่ที่ 1.628 ล้านตัน การผลิตลดลง 11.1% จากสัปดาห์เดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งมีอัตราการใช้กำลังการผลิตอยู่ที่ 82.8% และมีการผลิตรวมอยู่ที่ 1.828 ล้านตัน การผลิตประจำปีสะสมจนถึงวันที่ 26 พ.ย. มีจำนวนทั้งสิ้น 81.245 ล้านตัน โดยมีอัตราการใช้กำลังการผลิตอยู่ที่ 78.5% นั่นคือลดลง 5.2% จาก 85.705 ล้านตัน ที่ผลิตในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งมีการใช้เมื่ออัตราการผลิตอยู่ที่ 81.3%           หากแบ่งย่อยตามพื้นที่ของ AISI ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีการผลิตทั้งหมด 143,000 ตัน ในภูมิภาคเกรตเลกส์ (Great Lakes region) มีการผลิต 533,000 ตัน ใน Midwest มีการผลิต 187,000 ตัน ในเขตทางตอนใต้มีการผลิต 690,000 และในภูมิภาคตะวันตก มีการผลิต 72,000 ตัน  
24 ธันวาคม 2022

ข่าวสาร65

จีนลดผลิตเหล็กในพ.ย. เหตุดีมานด์ทรุดจากซีโร่โควิด-วิกฤตตลาดอสังหาฯ Update : 15 ธันวาคม 2565    
8 ธันวาคม 2021

ส่งออกไทยปี64 เอกชนมั่นใจโต15% จับตาไวรัสโอไมครอนระบาดทั่วโลก Update : 7 ธันวาคม 2564    
17 พฤศจิกายน 2021
ไวร์เมชเสริมคอนกรีต (wiremesh) แบรนด์ WMImesh คุณภาพมาตราฐาน บริการดีเยี่ยม ตะแกรงเหล็กไวร์เมช

สหรัฐเล็งผ่อนปรนภาษีนำเข้าเหล็ก

สหรัฐเล็งผ่อนปรนภาษีนำเข้าเหล็ก-อลูมิเนียมญี่ปุ่นหวังเริ่มต้นสัมพันธ์การค้าใหม่ Update : 15 พฤศจิกายน 2564WMI NEWS ตะแกรงเหล็กไวร์เมช   คณะบริหารภายใต้การนำของประธานาธิบดีโจ ไบเดนแห่งสหรัฐกำลังพิจารณาเรื่องการผ่อนคลายมาตรการภาษีนำเข้าเหล็กกล้าและอลูมิเนียมจากญี่ปุ่น
ภายใต้มาตรการครั้งล่าสุดในการเริ่มต้นความสัมพันธ์ทางการค้าใหม่กับบรรดาชาติพันธมิตรของสหรัฐ
เว็บไซต์มาร์เก็ตวอทช์รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า คาดว่าคณะบริหารของสหรัฐจะประกาศแผนเริ่มต้นการเจรจากับญี่ปุ่นเกี่ยวกับการผ่อนปรนภาษีในวันศุกร์นี้ (19 พ.ย.)
โดยตั้งเป้ากำหนดข้อตกลงเพื่ออนุญาตให้สามารถนำเข้าโลหะบางส่วนของญี่ปุ่นสู่สหรัฐได้แบบปลอดภาษี
สำหรับการตัดสินใจดังกล่าวนั้นมีขึ้นหลังคณะบริหารสหรัฐทำข้อตกลงกับสหภาพยุโรป (EU) ในการผ่อนปรนภาษีนำเข้าเหล็กกล้าและอลูมิเนียมยุโรป
เมื่อช่วงปลายเดือนที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นการขจัดความขัดแย้งอันยาวนานระหว่างสองฝ่าย อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เป็นผู้กำหนดมาตรการภาษีดังกล่าว โดยเขาระบุว่าต้องการปกป้องอุตสาหกรรมเหล็กกล้าและอลูมิเนียมของสหรัฐไม่ให้ได้รับผลกระทบ
จากการนำเข้า แหล่งที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)
15 พฤศจิกายน 2021
รถเทเลอร์ ขน ไวร์เมช วายเมท (Wiremesh) แบรนด์ WMIMesh

“วินท์ สุธีรชัย” กับเส้นทางความสำเร็จในฐานะ “นักบริหารรุ่นใหม่”

“วินท์ สุธีรชัย” กับเส้นทางความสำเร็จในฐานะ “นักบริหารรุ่นใหม่” Update : 9 พฤศจิกายน 2564    
15 พฤศจิกายน 2021
ไวเมช

จับตาราคาเหล็กปี 65 อุตสาหกรรมโต ดีมานต์เพิ่ม ดันราคาสูง

จับตาราคาเหล็กปี 65 อุตสาหกรรมโต ดีมานต์เพิ่ม ดันราคาสูง ไวเมช Update : 7 พฤศจิกายน 2564 อุตสาหกรรมเหล็กไทย ปี 65 ความต้องการใช้โตแตะ 20 ล้านตัน อัดฉีดลงทุนรัฐ อัตราฉีดวัคซีนหนุน ปรับตัวกับภาวะโรคระบาด เศรษฐกิจฟื้นตัวต่อเนื่องคาดภาคเอกชนลงทุนเพิ่ม อุตสาหกรรมเหล็กเป็นอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ เนื่องจากมีความจำเป็นต่อการผลิตในภาคอุตสาหกรรมต่อเนื่อง อาทิ
อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า ยานยนต์ สะพาน ทางหลวง ก่อสร้าง พลังงาน บรรจุภัณฑ์ และเสาส่งสัญญาณสาธารณูปโภค
จึงเป็นที่น่าจับตาสถานการณ์อุตสาหกรรมเหล็กโลกและไทยช่วงปลายปีนี้รวมถึงสถานการณ์ในปี 2565 ที่ได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันโลกที่พุ่งสูงจะเป็นอย่างไรบ้าง
นายนาวา จันทนสุรคน ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมเหล็ก สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผย “กรุงเทพธุรกิจ” ว่าความต้องการเหล็กในปี 2564
ภาพรวมดีขึ้นกว่าปีที่แล้ว 15% อยู่ที่ 18.9 ล้านตัน โดยคาดว่าปี 2565 จะโตเพิ่มอีก 5% ทำให้ความต้องการใช้เหล็กในไทยใกล้เคียง 20 ล้านตัน ทั้งนี้ มีปัจจัยด้านบวกที่ชัดเจนคือการลงทุนเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานโดยภาครัฐ อาทิ โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้า ซึ่งเป็นนโยบายที่นานาประเทศต่างก็หยิกยกขึ้นมาใช้
เพื่อเร่งอัดฉีดการเติบโตของเศรษฐกิจ รวมถึงภาคเอกชนที่ฟื้นตัวต่อเนื่องเมื่อสามารถปรับตัวกับภาวะโรคระบาดใหญ่ของโควิด-19 ประชากรในประเทศมีอัตรา
การฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้น โดยคาดว่าภาคธุรกิจท่องเที่ยว และภาคบริการจะฟื้นตัวได้ดี และส่งเสริมให้เกิดการลงทุนเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม หลังสถานการณ์โควิด-19 ที่ทำให้ภาคธุรกิจหลายแห่งบาดเจ็บหนัก ส่งผลให้มีปัจจัยเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจของสมาชิกกลุ่มอุตสาหกรรมเหล็ก
เมื่อคู่ค้าไม่สามารถชำระเงินตามที่ตกลงไว้ได้ นอกจากนี้ คาดการณ์ว่าการซื้อขายระหว่างประเทศจะเปลี่ยนไป ด้วยผลจากต้นทุนการขนส่งที่เพิ่มขึ้นและเส้นทางเดินเรือที่อาจมีข้อจำกัดเรื่องโรคระบาดจึงส่งผลให้
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการจะต้องเตรียมความพร้อมในปีหน้าสำหรับข้อกำหนดด้านสิ่งแวดล้อมที่จะถูกยกมาใช้เป็นกำแพงทางการค้า รวมถึงการขนส่งทางรางที่กำลัง
กลายเป็นทางเลือกที่ดีกว่า
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ภาคการผลิตในไทยยังเติบโตได้ แต่ติดปัญหาอุปทานตึงตัว ทำให้ไม่สามารถผลิตได้
เท่าความต้องการในตลาด และการที่สินค้าต้นน้ำมีการปรับราคาขึ้น ทำให้ไทยที่เป็นผู้ผลิตอุตสาหกรรมกลางน้ำ จำเป็นต้องปรับราคาขึ้นตาม
สถานการณ์เศรษฐกิจโลก
จากสรุปภาวะเศรษฐกิจไทยรายเดือนของเดือนตุลาคม โดยสมาคมธนาคารไทย คาดการณ์ว่าปัญหาอุปทานขาดแคลนชิ้นส่วนสำคัญในภาคการผลิต ความล่าช้า
ในการขนส่ง รวมถึงค่าขนส่งที่เพิ่มสูงขึ้นกว่าปกติจะยังไม่คลี่คลายในปีนี้ จึงทำให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้นมาก ส่งผลให้เศรษฐกิจโลกมีทิศทางชะลอลงเล็กน้อย
โดยมีผลกระทบต่อประเทศไทยที่เห็นได้ชัดคือดัชนีราคาผู้ผลิตที่พุ่งสูงขึ้น กดดันกำไรของผู้ประกอบการ อย่างไรก็ตามความต้องการจากต่างประเทศยังคงแข็งแกร่ง
คาดว่าจะช่วยให้การส่งออกไทยยังสามารถรักษาระดับได้
ทั้งนี้ เศรษฐกิจโลกยังมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง แต่ในระยะหลังจะแผ่วลงบ้างจากปัญหาอุปทานขาดแคลนที่ยืดเยื้อ และต้นทุนวัตถุดิบราคาแพง ซึ่งในปีนี้
พบว่าราคาสินค้าโภคภัณฑ์สำคัญในตลาดโลกพุ่งขึ้นมาแตะระดับสูงสุดในรอบหลายปี หลังจากถึงจุดสูงสุดแล้วทำให้นักเคราะห์มองว่าราคามีแนวโน้มลดลงในปีถัดไป
โดยแร่เหล็ก (Iron Ore) มีราคาสูงสุดที่ 202.9 ดอลลาร์/ตัน ในเดือน พ.ค. 2564 ซึ่งมีแนวโน้มลดลง คาดการณ์ว่าราคาจะลดลงถึง 98.5 ดอลลาร์/ตัน ในไตรมาส 3 ปี 2565 ต้นทุนขนส่งแพง
อีกปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อราคาเหล็กคือต้นทุนการขนส่ง ซึ่งค่าขนส่งสินค้าระหว่างประเทศทั้งทางทะเลและทางอากาศมีแนวโน้มอยู่ในระดับสูง โดยสำนักวิจัย
ผู้เชี่ยวชาญธุรกิจเดินเรือ Drewry เชื่อว่าค่าขนส่งทางเรือจะอยู่ในระดับสูงจนถึงปี 2565 ก่อนปรับตัวลดลงในปีถัดไป โดยให้เหตุผลว่าว่าค่าขนส่งทางเรือสูงขึ้น
จากอุปทานที่มีน้อยกว่าอุปสงค์มาก ในขณะที่ค่าขนส่งทางอากาศมีการปรับตัวสูงขึ้นจากอุปสงค์ที่เติบโตได้ดี จากการขนส่งสินค้าประเภท อิเล็กทรอนิกส์ ยา
และอุปกรณ์การแพทย์
อย่างไรก็ตามบางสำนักวิจัยอย่าง JP Morgan มีความเห็นแย้งว่าค่าขนส่งในปัจจุบันได้แตะจุดสูงสุดแล้วและมีแนวโน้มลดลง เพราะหากค่าขนส่งสูงเป็นระยะเวลายาว
จะส่งผลต่อราคาสินค้า ซึ่งจะทำให้อุปสงค์ชะลอตัวไปด้วย ราคาแตะ All Time High แล้ว
นอกจากนี้ ได้คาดการณ์ว่าราคาเหล็กนำเข้าเฉลี่ยช่วงครึ่งแรกของปี 2565 จะยังมีแนวโน้มทรงตัวอยู่ในระดับสูงต่อเนื่องจากปีนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับราคา 735 ดอลลาร์/ตัน
ปรับตัวลดลง 5% จากปี 2564 ด้วยปัจจัยกดดันจากอุปสงค์ภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีนและราคาวัตถุดิบแร่เหล็กที่คาดว่าจะปรับลดลง 20% รายงานอุตฯเหล็กเดือนกันยายน
ยอดการผลิตเหล็กดิบของโลกในเดือนกันยายน 2564 อยู่ที่ 144.4 ล้านตัน หดตัว 8.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากผู้ผลิตรายใหญ่ของโลกอย่างจีน
ปรับลดการผลิตลงถึง 21.2% จากมาตรการการลดกำลังการผลิตและการใช้พลังงานในประเทศเพื่อรักษาเป้าหมายการรักษาสภาพภูมิอากาศลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน
โดยตั้งเป้าไว้ว่าจะผลิตเหล็กดิบไม่เกินยอดของปีก่อนเป็นอย่างน้อย ในขณะที่ภูมิภาคอื่นๆ ได้แก่ แอฟริกา อียู ยุโรปและอื่นๆ อเมริกาเหนือ และอเมริกาใต้
มีการผลิตเหล็กดิบที่ขยายตัวขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
โดยในภาพรวมการผลิตเหล็กดิบ 9 เดือนสะสมปีนี้ มีการขยายตัวขึ้น 7.8% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า อยู่ที่ 1,461 ล้านตัน แสดงถึงกิจกรรมทางเศรษฐกิจ
ในหลายภูมิภาคทั่วโลกที่ยังคงฟื้นตัวได้
สำหรับประเทศไทยในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2564 มีปริมาณการบริโภคผลิตภัณฑ์เหล็กสำเร็จรูป 1.42 ล้านตัน ขยายตัวขึ้น 20% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
โดยมีกลุ่มผลิตภัณฑ์เหล็กทรงยาวปรับตัวลดลงเนื่องจากภาคการก่อสร้างยังฟื้นตัวไม่เต็มที่และเป็นช่วงฤดูฝนที่การก่อสร้างชะลดตัว ในขณะที่ความต้องการเหล็ก
ทรงแบนขยายตัวได้ดี เมื่อภาคการผลิตของอุตสาหกรรมต่อเนื่องมีการใช้ผลิตภัณฑ์เหล็กฟื้นตัวได้ดี อาทิ อุตสาหกรรมรถยนต์และเครื่องใช้ไฟฟ้า ผู้ผลิตขอปรับขึ้นราคา
รวมถึงวันที่ 1 พ.ย. 64 ที่ผ่านมาผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่ในประเทศอินเดียได้ประกาศปรับราคาเหล็กแผ่นรีดร้อน (HRC) ขึ้น 47 ดอลลาร์/ตัน เมื่อต้นทุนเงินเฟ้อสูงขึ้น
จากราคาถ่านหินที่เพิ่มขึ้น โดยมีความเห็นว่า “เป็นเรื่องจำเป็นที่จะต้องขึ้นราคา เพราะต้นทุนเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้น จากราคาพลังงานเชื้อเพลิงที่เพิ่มขึ้นถึง 70%
จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ในขณะที่ราคาแร่เหล็กในตลาดโลกปรับตัวลดลงเพียงเล็กน้อย นอกจากนี้ผู้ผลิตรายอื่นในตลาดเองก็เริ่มปรับราคาขึ้นเช่นกัน” นายนาวา กล่าวว่า ในปัจจุบันต้นทุนราคาเหล็กได้รับผลกระทบจากราคาค่าขนส่งที่แพงขึ้น แต่คาดว่าค่าขนส่งจะแตะเพดานราคาตามที่รัฐมีมาตรการอุ้มราคาน้ำมัน
ทำให้ค่าขนส่งจะทรงตัว อย่างไรก็ตามมองว่าราคาเหล็กเป็นไปตามปริมาณความต้องการในตลาดทั่วโลก โดยคาดว่าราคาเหล็กในไทยในปีหน้าจะปรับตัวขึ้นลง
อยู่ใกล้ราคาในปลายปีนี้ แต่จะไม่ต่ำลงถึงราคาปีก่อนหน้า แหล่งที่มา : www.bangkokbiznews.com  
30 ตุลาคม 2021
ไวร์เมช วายเมท เสริมคอนกรีต (wiremesh) แบรนด์ WMImesh คุณภาพมาตราฐาน บริการดีเยี่ยม จัดส่งทั่วประเทศ รับเหมา

TSTH คาดผลงาน H2 งวดปี 64/65 โตต่อเนื่อง จากราคาเหล็กสูงตามดีมานด์ฟื้น

TSTH คาดผลงาน H2 งวดปี 64/65 โตต่อเนื่อง จากราคาเหล็กสูงตามดีมานด์ฟื้น Update : 20 ตุลาคม 2564 รับเหมา   นายราจีฟ มังกัล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ทาทา สตีล (ประเทศไทย) (TSTH) เปิดเผยว่า บริษัทฯ คาดผลการดำเนินงานในครึ่งปีหลังของงวดปี 64/ 65
(ต.ค.64 ถึง มี.ค.65) จะเติบโตต่อเนื่องจากครึ่งปีแรกที่ผ่านมา (เม.ย.-ก.ย.64) ที่อยู่ที่ 672,000 ตัน หลังราคาเหล็กอยู่ในระดับสูง โดยคาดราคาเหล็กจะปรับตัว
ขึ้นมากกว่า 25,000 บาท/ตัน จากเดือนก.ย.ที่ผ่านมา มาจากความต้องการที่ฟื้นตัวขึ้น โดยเฉพาะภายหลังจากปริมาณน้ำที่ลดลง ก็น่าจะเห็นการซ่อมแซม ปรับปรุง
อาคารบ้านเรือนในช่วงปลายเดือนต.ค.นี้ ทำให้ส่งผลดีต่อความต้องการใช้เหล็ก ประกอบกับภาครัฐก็มีการลงทุน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ทำให้มองเป็นสัญญาณ
เชิงบวกในแง่ของการจับจ่ายใช้สอยภาคครัวเรือน และยังเป็นSentiment เชิงบวกต่อภาคเอกชน ที่จะเกิดการลงทุนมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ธุรกิจของบริษัทดีขึ้นตามไปด้วย อีกทั้งบริษัทฯ ได้มีการส่งออกเหล็กไปยังประเทศแคนาดาเป็นครั้งแรกเมื่อเดือนเม.ย.64 โดยมีปริมาณการส่งออกสินค้ารอบแรกที่ 6,500 ตัน ส่งผลให้ปริมาณ
การส่งออกครึ่งปีแรก โดยรวมอยู่ที่ 81,000 ตัน หรือคิดเป็น 12% ของปริมาณการขายทั้งหมด ขณะเดียวกันบริษัทฯ ก็ได้รับคำสั่งซื้อเข้ามาเพิ่มอีก โดยรอบที่สอง
จะอยู่ที่ 15,000 ตัน คาดว่าจะส่งมอบได้ในเดือนพ.ย.นี้ และน่าจะทำให้ทั้งปีจะมีสัดส่วนปริมาณการขายจากการส่งออกอยู่ที่ 9-10% นอกจากนี้ยังมีปัจจัยบวกจากจีน ที่มีการประกาศลดกำลังการผลิตเหล็กในช่วงฤดูหนาว ตั้งแต่พ.ย.64 ถึงมี.ค.65 เพื่อล้างท้องฟ้าที่ปกคลุมไปด้วยหมอกควันในภูมิภาค
และเพื่อบรรลุผลสำเร็จของเป้าหมายการลดกำลังการผลิตเหล็กของประเทศ แต่อย่างไรก็ตามในครึ่งปีหลังนี้ TSTH ก็ยังมีความท้าทายจากต้นทุนวัตถุดิบที่ปรับตัวขึ้น และความต้องการ Material อื่นๆ ที่มีแนวโน้มชะลอตัวลง หลังจากจีนลดกำลัง
การผลิตเหล็ก ทำให้อุตสาหกรรมเหล็กก็มีการปรับลดการใช้ Material ลงไปด้วย นายราจีฟ กล่าวว่า บริษัทฯ ยังคงมั่นใจปริมาณการขายเหล็ก งวดปี 64/65 จะเติบโตกว่าปีก่อนที่ทำได้ 1.3 ล้านตัน จากครึ่งปีแรกทำได้แล้ว 672,000 ตัน และเชื่อว่า
ครึ่งปีหลังจะทำได้ดีต่อเนื่อง จากปัจจัยที่กล่าวมาข้างต้น แหล่งที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)
30 ตุลาคม 2021
เหล็ก ตะแกรงเหล็ก

Worldsteel

Worldsteel ปรับลดแนวโน้มอุปสงค์เหล็กทั่วโลก เนื่องจากการชะลอตัวของจีน Update : 18 ตุลาคม 2564 เหล็ก    ความต้องการเหล็กทั่วโลกในปี 2021 คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 4.5% ซึ่งต่ำกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้เนื่องจากการชะลอตัวทางเศรษฐกิจของประเทศจีน
โดยสมาคมเหล็กโลก (World Steel Association) กล่าวเมื่อวันที่ 14 ต.ค. ถึงแนวโน้มระยะสั้นของปี 2021 และ 2022 ประเทศจีนซึ่งผลิตเหล็กดิบมากกว่าครึ่งหนึ่งของโลก คาดว่าสิ้นปี 2021 จะมีความต้องการลดลง 1% เหลือที่ปริมาณ 985.1 ล้านตัน ซึ่งเทียบกับแนวโน้มก่อนหน้านี้ที่จะมีการเติบโต 3% ในปี 2022 คาดว่าความต้องการเหล็กในประเทศจีนไม่ขยายตัว โดยภาคอสังหาริมทรัพย์ยังคงซบเซาตามนโยบายของรัฐบาล
เกี่ยวกับการปรับสมดุลและรักษาสิ่งแวดล้อม
ในขณะเดียวกัน ความต้องการเหล็กนอกประเทศจีนคาดว่าจะกลับสู่ระดับก่อนเกิดโรคระบาดในปี 2021โดยเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ เนื่องจากการฟื้นตัว
ของเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งขึ้น โดย worldsteel ได้ทบทวนการคาดการณ์แล้ว
โดยความต้องการของโลกที่ไม่รวมประเทศจีน คาดว่าจะเติบโต 11.5% ในปี 2021 อยู่ที่ 870.3 ล้านตัน และเพิ่มขึ้น 4.7% ในปี 2565 อยู่ที่ 911.3 ล้านตัน
แทนที่จะเพิ่มขึ้น 9.3% ในปี 2021 เป็น 849.1 ล้านตัน และเพิ่มขึ้น 4.7% ในปี 2022 เป็น 889.5 ล้านตัน Al Remeithi ประธานคณะกรรมการเศรษฐกิจ worldsteel กล่าวว่า “ปี 2021 ได้เห็นการฟื้นตัวของอุปสงค์เหล็กที่แข็งแกร่งกว่าที่คาดการณ์ไว้ ส่งผลให้มีการ
ปรับขึ้นในการคาดการณ์ของเราทั้งหมด ยกเว้นในประเทศจีน” “กิจกรรมการผลิตที่แข็งแกร่งซึ่งได้รับแรงหนุนจากความต้องการที่ถูกกักไว้เป็นปัจจัยหลัก
ประเทศที่พัฒนาแล้วนั้นทำได้ดีกว่าที่เราคาดไว้ก่อนหน้านี้ โดยมีส่วนต่างที่มากกว่าประเทศกำลังพัฒนา ซึ่งสะท้อนถึงประโยชน์เชิงบวกของอัตราการฉีดวัคซีน
ที่สูงขึ้น และมาตรการสนับสนุนจากรัฐบาล ในประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเอเชีย แนวโน้มการฟื้นตัวถูกขัดจังหวะด้วยการกลับมาของการติดเชื้อ”
ในประเทศที่พัฒนาแล้ว การล็อกดาวน์ที่ตรงเป้ามากขึ้นช่วยลดผลกระทบของคลื่นการติดเชื้อล่าสุดที่มีต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจในปี 2021 อย่างไรก็ตาม
ปัญหาคอขวดของห่วงโซ่อุปทานและภาคบริการที่ชะลตัวทำให้ไม่สามารถฟื้นตัวได้อย่างแข็งแกร่ง มีการคาดหมายว่าภาย ในปี 2022 ปัญหาคอขวดในห่วงโซ่
อุปทานจะลดลง อุปสงค์ที่ถูกกักไว้ และความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและธุรกิจที่เพิ่มขึ้น จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับโมเมนตัมในการฟื้นตัว สมาคมกล่าว
หลังจากการลดลง 12.7% ในปี 2020 ความต้องการเหล็กจะเพิ่มขึ้น 12.2% ในปี 2021 และเพิ่มขึ้น 4.3% ในปี 2022 ซึ่งแตะถึงระดับก่อนเกิดการโรคระบาด
ในประเทศกำลังพัฒนา ยกเว้นประเทศจีน เหล็กฟื้นตัวต่อเนื่องในปี 2021 โดยได้รับการสนับสนุนจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์และการค้าระหว่างประเทศที่ฟื้นตัว อย่างไรก็ตาม คลื่นการระบาดโควิด-19 รอบใหม่ ประกอบกับระดับการฉีดวัคซีนที่ต่ำ และการฟื้นตัวอย่างช้าๆ ในการท่องเที่ยวระหว่างประเทศเป็นข้อจำกัด
ของประเทศกำลังพัฒนา แต่ในปีหน้าเมื่อการฉีดวัคซีนมีความคืบหน้า สภาวะในประเทศกำลังพัฒนาก็คาดว่าจะดีขึ้น Worldsteel กล่าว
แหล่งที่มา : Steel Business Briefing
30 มิถุนายน 2021

จีนเพิ่มการลดกำลังการผลิต แต่ราคาเหล็กการก่อสร้างชะลอตัว Update : 29 มิถุนายน 2564    
30 มิถุนายน 2021

HRC ในเอเชียทรงตัวท่ามกลางการฟื้นตัวในจีน Update : 28 มิถุนายน 2564    
-----